‘แฟชั่นกันแดดจีน’ อุตสาหกรรมมูลค่าหลักแสนล้าน
19
July
2024
16
July
2024
จากการที่ผู้บริโภคเริ่มให้ความสำคัญต่อการป้องกันผิวจากแสงแดดมากขึ้น ทำให้อุตสาหกรรมแฟชั่นกันแดดในประเทศจีนขยายตัวอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จากข้อมูลสถิติที่เกี่ยวข้องแสดงให้เห็นว่า มูลค่าตลาดแฟชั่นกันแดดในจีนกำลังจะแตะ 74,200 ล้านหยวน (ราว 3.71 แสนล้านบาท) ภายในปีนี้ และพุ่งทะยานสู่ 95,800 ล้านหยวน (ราว 4.79 แสนล้านบาท) ภายในปี 2569 ด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีแบบทบต้น (CAGR) ที่ 13.6%
กระแสความร้อนแรงดังกล่าว สะท้อนให้เห็นผ่านตัวเลขช่วงเทศกาลชอปปิ้ง “618” ปีนี้ ซึ่งเป็นเทศกาลชอปปิ้งออนไลน์กลางปีสุดยิ่งใหญ่ของจีน โดยปริมาณธุรกรรมของหมวดหมู่แฟชั่นกันแดดบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชื่อดังแห่งหนึ่งเพิ่มขึ้นมากถึง 120% เมื่อเทียบเป็นรายปี
หลายแบรนด์ในจีนกำลังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อครองส่วนแบ่งในตลาดมูลค่าเฉียดหลักแสนล้านหยวนนี้ ทั้งผู้เล่นหน้าใหม่ในตลาดอย่าง “เจียวเซี่ย” (Beneunder), “เจียวเน่ย” (Bananain) และ “โม่สวิน” (MOUTION) รวมไปถึงแบรนด์เสื้อผ้ากีฬากลางแจ้งอย่าง “ทั่นลู่เจ่อ” (TOREAD) และ “อันท่า” (Anta) หรือแม้กระทั่งแบรนด์ “โปซือเติง” (Bosideng) ซึ่งแต่เดิมมุ่งเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์ประเภทเสื้อแจ็คเก็ตดาวน์ ก็ยังหันมาเริ่มจับตลาดนี้แล้วเช่นเดียวกัน เรียกได้ว่า กระแสเทรนด์แฟชั่นกันแดดกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในตลาดจีน
“แบรนด์จีน” ครองตลาดแฟชั่นกันแดดในประเทศ
จากการสืบค้นข้อมูลของผู้สื่อข่าว People’s Daily พบว่า ในบรรดาแบรนด์เสื้อผ้ากันแดดที่ได้รับความนิยมสูงสุด 10 อันดับแรกของปีนี้ มีแบรนด์จีนติดอันดับมากถึง 7 แบรนด์ โดยสินค้าแฟชั่นอย่าง “หน้ากากบลัชออน”, “ปลอกสวมแขน” และ “เฟซกินี” หรือ หมวกว่ายน้ำที่เผยให้เห็นแค่ตา จมูกและปาก กลายเป็นสินค้าขายดีของแบรนด์จีนเหล่านี้
ความท้าทายและการปรับตัวของแบรนด์จีน
อย่างไรก็ดี แม้อุตสาหกรรมแฟชั่นกันแดดจะได้รับอานิสงส์ขายดีในฤดูร้อน แต่ก็ยังต้องเผชิญกับข้อจำกัดในการทำยอดขายให้ได้ดีต่อเนื่องตลอดทั้งปี แบรนด์จีนต่างๆ จึงต้องรู้จักปรับปรุงพัฒนาสินค้าของตนเอง ทั้งในด้าน “เทคโนโลยี” และ “รูปลักษณ์” ของสินค้า เช่น การพัฒนาเส้นด้ายให้มีประสิทธิภาพป้องกันแสงแดดได้ดียิ่งขึ้น โดยปัจจุบัน ค่า UPF (ความสามารถในการป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลต) ของหลายแบรนด์เสื้อผ้าในต่างประเทศมีค่าเกินกว่า 50 ซึ่งสูงกว่ามาตรฐานที่จีนกำหนดไว้ที่ 40 รวมทั้งควรจะเพิ่มคุณสมบัติด้านอื่นๆ ให้กับผลิตภัณฑ์ เช่น การระบายอากาศ กันน้ำและอื่นๆ เพื่อสร้างความแตกต่างให้กับผลิตภัณฑ์ด้วย
ขณะที่ในด้านรูปลักษณ์ อาจจะพิจารณาเพิ่มองค์ประกอบวัฒนธรรมจีนเข้าไปในสินค้า เพื่อรับกับกระแส “กั๋วเฉา” (China Chic) ที่ผู้บริโภคชาวจีนนิยม เช่น การผสมผสานแฟชั่นกันแดดเข้ากับชุดจีนโบราณสไตล์ฮั่นฝู เป็นต้น
นอกจากนี้ แบรนด์จีนยังควรที่จะแสวงหาโอกาสในการส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ เพื่อขยายการเติบโตของแบรนด์อย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลของ Yiwu International Trade City แสดงให้เห็นว่า จำนวนผู้ค้าที่ขายผลิตภัณฑ์กันแดดในปี 2567 เพิ่มขึ้นเกือบ 40% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยสินค้าแฟชั่นประเภท “ปลอกแขน” และ “หมวกกันแดด” ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ซื้อแถบทวีปยุโรปและอเมริกา ขณะที่ “เฟซกินี” และ “หน้ากากกันแดด” ได้รับความนิยมจากผู้ซื้อชาวญี่ปุ่นและเกาหลี
ขณะเดียวกัน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของจีนยังได้ออกมาตรการช่วยอำนวยความสะดวก และย่นระยะเวลาพิธีการศุลกากรให้กับสินค้าแฟชั่นกันแดด จากสถิติของศุลกากรเมืองหนิงโป มูลค่าการส่งออกสินค้าประเภทแฟชั่นกันแดดเมื่อเดือนเม.ย ที่ผ่านมา อยู่ที่ 7.69 ล้านหยวน (ราว 38.45 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 25.09% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า
ที่มา: People’s Daily