พาชม ‘ไร่ทุเรียนในไห่หนาน’ คาดผลผลิตปีนี้แตะ 200 ตัน
23
July
2024
21
July
2024
ช่วงเดือนกรกฏาคม ผลทุเรียนมากมายถูกมัดติดอยู่บนต้นทุเรียนหลายร้อยต้น ภายในบริเวณพื้นที่ปลูกทุเรียนในเมืองซานย่า มณฑลไห่หนาน
ตู้ ไป่จง ประธานสมาคมทุเรียนไห่หนาน และผู้จัดการทั่วไปของบริษัท Hainan Youqi Agricultural Co., Ltd. กล่าวว่า จากการที่ต้นทุเรียนมีอายุมากขึ้นและได้รับการบำรุงรักษาตามหลักทางวิทยาศาสตร์ ส่งผลให้พื้นที่ปลูกและผลผลิตของทุเรียนซานย่าบรรลุความก้าวหน้าใหม่ในปีนี้
ทั้งนี้ คาดว่าปีนี้พื้นที่ปลูกทุเรียนในซานย่าจะครอบคลุม 13,000 หมู่ (ราว 5,416 ไร่) และให้ผลผลิตมากกว่า 200 ตัน
“สุกบนต้น” ข้อได้เปรียบหลักของทุเรียนไห่หนาน
แล้วทำไมถึงต้องใช้เชือกโยงทุเรียนไว้กับลำต้น? ความจริงแล้ว เชือกเส้นเล็กๆ เหล่านี้ ยังเชื่อมโยงไปถึงข้อได้เปรียบที่สุดข้อหนึ่งของทุเรียนไห่หนาน นั่นคือ การที่สามารถปล่อยให้ทุเรียน “สุกบนต้น” ได้
ตู้ ไป่จง กล่าวว่า เนื่องจากข้อจำกัดด้านการขนส่งโลจิสติกส์ ทำให้ทุเรียนที่นำเข้าจากต่างประเทศต้องถูกตัดตั้งแต่ระดับความสุกแค่เพียง 70-80% เท่านั้น ทั้งยังต้องผ่านการบ่ม และขนส่งมายังประเทศจีนผ่านระบบขนส่งห่วงโซ่ความเย็น ซึ่งย่อมส่งผลต่อคุณภาพผลผลิต แต่ทุเรียนที่ปลูกในไห่หนานนั้นแตกต่างออกไป เพราะสามารถขนส่งไปยังผู้บริโภคทั่วประเทศจีนได้อย่างรวดเร็วในทันทีหลังจากเก็บเกี่ยว จึงสามารถปล่อยไว้ให้สุกบนต้นได้ ซึ่งการ “สุกบนต้น” ที่ว่านี้ ก็ได้กลายมาเป็นหลักประกันคุณภาพที่สำคัญของทุเรียนที่ปลูกภายในประเทศ
กว่าจะกลายมาเป็น “ทุเรียนไห่หนาน”
กว่าจะกลายมาเป็นอย่างทุกวันนี้ได้ “ทุเรียนไห่หนาน” ต้องผ่านความยากลำบากมามากมาย
เมื่อหลายปีก่อน ไห่หนานเคยถูกมองว่าไม่เหมาะสมสำหรับการเพาะปลูกทุเรียน เนื่องจากต้นกล้าไม่สามารถเจริญเติบโตภายใต้สภาพดินฟ้าอากาศและสิ่งแวดล้อมที่แตกต่างกันได้ แต่ก็เกิดเรื่องน่าประหลาดใจขึ้น เมื่อต้นทุเรียนจำนวนหนึ่งที่นำมาปลูกไว้ที่ไห่หนานตั้งแต่ปี 2015 เริ่มออกดอกครั้งแรกในปี 2019
“หลังจากที่ทราบข่าว พวกเรารู้สึกตื่นเต้นมากและเริ่มทดลองในทันที” ตู้ ไป่จง กล่าว อย่างไรก็ตาม การทดลองปลูกครั้งแรกก็ไม่ประสบผลสำเร็จ อัตราการรอดตายของต้นทุเรียนอยู่ที่เพียง 40%-50% เท่านั้น แต่หลังจากที่ได้ร่วมมือกับสถาบันวิจัยทางวิทยาศาสตร์ต่างๆ เช่น สถาบันวิทยาศาสตร์ทางการเกษตรไห่หนาน เพื่อคิดค้นหาวิธีการเพาะปลูกแบบเฉพาะตัวที่มีความแม่นยำและทันสมัย อัตราการรอดตายของต้นกล้าทุเรียนก็ก้าวไปถึงระดับ 90% ในปี 2021
‘สารอาหาร-การดูแลที่ดี’ หัวใจสำคัญยกระดับคุณภาพผลผลิต
อย่างไรก็ดี การเพาะต้นกล้าทุเรียน ถือเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น การจะทำให้ทุเรียนออกดอกและติดผลนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญกว่า เพื่อให้แน่ใจว่าต้นทุเรียนได้รับสารอาหารที่เพียงพอ ทีมงานของตู้ไป่จงได้ร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญเพื่อคิดค้นปุ๋ยอินทรีย์สูตรพิเศษ ทั้งการใช้ปลาจากมณฑลไห่หนานเพื่อทำปุ๋ยโปรตีนจากปลา และใช้ถั่วลิสงจากมณฑลซานตงเพื่อทำปุ๋ยโปรตีนจากถั่ว... ทุกเดือน ต้นทุเรียนของที่นี่จะได้รับสารอาหารจากปุ๋ยอินทรีย์ เพื่อช่วยปรับปรุงคุณภาพผลผลิตให้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีการนำเอาเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาช่วยในการเพาะปลูก เช่น ระบบจัดการน้ำและให้ปุ๋ยแบบดิจิทัล, ระบบติดตามด้วยโดรน, ระบบตรวจสอบป้องกันโรคพืช ฯลฯ เพื่อช่วยควบคุมดูแลการเจริญเติบโตของทุเรียนอย่างทั่วถึงในทุกสภาพอากาศ
ปีนี้ทุเรียนในฐานการเพาะปลูกของซานย่าอายุครบ 3 ปีแล้ว “ตามประสบการณ์ ทุเรียนอายุ 3 ปีจะมีรสชาติไม่ค่อยอร่อยนัก” ตู้ไป่จงได้เชิญกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านทุเรียนจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เข้าร่วมชิมรสชาติทุเรียนไห่หนาน “ก่อนชิมพวกเขารู้สึกเฉยๆ แต่หลังจากได้ชิมแล้วกลับรู้สึกทึ่งมาก พวกเขาประหลาดใจมากว่าเราปลูกทุเรียนให้มีคุณภาพระดับนี้ได้อย่างไร ทั้งยังรู้สึกสนใจในสูตรปุ๋ยอินทรีย์และเทคโนโลยีการให้น้ำของเราเป็นพิเศษ”
เวลาเลือกซื้อทุเรียน คนมักจะกลัวเจอ “ทุเรียนพิฆาต” ที่สุด นั่นคือภายนอกผลจะดูใหญ่และมีน้ำหนัก แต่ภายในกลับมีเนื้อแค่เพียงนิดเดียวหรือไม่มีเลย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสถานการณ์เช่นนี้ ฐานเพาะปลูกทุเรียนในซานย่าจึงได้นำ “เครื่องซีทีสแกนทุเรียน” เข้ามาใช้เพื่อช่วยตรวจสอบคุณภาพผลผลิต ซึ่งไม่เพียงแต่สามารถวัดระดับความสุกของทุเรียนได้เท่านั้น แต่ยังสามารถมองเห็นการเจริญเติบโตของเนื้อทุเรียนภายใน ทำให้มั่นใจได้ว่าทุเรียนที่ถูกส่งออกไปมีเนื้อแน่นและได้คุณภาพจริงๆ
ที่มา: People's Daily