อำเภอเล็กๆ ในจีนกลายเป็นแหล่งผลิต ‘ฟัวกราส์’ ชั้นนำระดับโลก

        ‘ตับห่าน’ หรือ ‘ฟัวกราส์’ อาหารอันโอชะของฝรั่งเศส กลายมาเป็นสินค้าเอกลักษณ์เฉพาะถิ่นของอำเภอหลินฉวี เมืองเหวยฟาง มณฑลซานตงทางตะวันออกของจีน โดยอำเภอแห่งนี้สามารถแปรรูปห่านได้กว่า 5 ล้านตัว และผลิตฟัวกราส์ได้กว่า 5,000 ตันต่อปี

        ฟัวกราส์จาก ‘อำเภอหลินฉวี’ ได้ถูกจัดส่งไปให้กับโรงแรมและร้านอาหารระดับพรีเมียมในกว่า 30 มณฑลและเมืองต่างๆ ทั่วประเทศจีน รวมถึงได้ถูกนำไปเสิร์ฟอยู่บนโต๊ะอาหารของนานาประเทศและภูมิภาคทั่วโลก อาทิ ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 

การเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลของ ‘ห่านเมืองล็องด์’

        ในช่วงทศวรรษ 1980 การขนส่งห่านจากเมืองล็องด์ (Landes) ประเทศฝรั่งเศส มายังอำเภอหลินฉวี ประเทศจีน ถือเป็นจุดเริ่มต้นของอุตสาหกรรมฟัวกราส์ในอำเภอแห่งนี้

        ด้วยทำเลที่ตั้งและสภาพอากาศของอำเภอหลินฉวี ซึ่งตั้งอยู่ละติจูดเดียวกันกับเมืองล็องด์ในประเทศฝรั่งเศส ทำให้ห่านล็อตแรกจากฝรั่งเศสสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมที่นี่ได้ไม่ยาก จนสามารถยกระดับคุณภาพและเร่งการเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว

        ตลอดช่วงระยะเวลา 4 ปีแรก ผู้เชี่ยวชาญด้านการเลี้ยงและแปรรูปห่านจากฝรั่งเศสได้เข้ามาควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิดทุกขั้นตอน ตั้งแต่การคัดเลือกห่าน การฟักไข่ การเพาะพันธุ์ห่าน ไปจนถึงการผลิตและการแปรรูปฟัวกราส์ เพื่อให้มั่นใจได้ในคุณภาพและรสชาติของผลิตภัณฑ์

จาก “ห่านต่างแดน” สู่อุตสาหกรรมมูลค่าหลักพันล้านหยวน 

        หลังจากการปรับตัวและเพาะพันธุ์ห่านต่อเนื่องเป็นระยะเวลาหลายปี ทำให้อุตสาหกรรมห่านในอำเภอหลินฉวีค่อยๆ ก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นเรื่อยๆ  โดยปัจจุบันมูลค่าผลผลิตห่านต่อปีของที่อำเภอหลินฉวีทะลุเกิน 4 พันล้านหยวน (ราว 2 หมื่นล้านบาท) แล้ว

        การเติบโตของอุตสาหกรรมฟัวกราส์ได้กระตุ้นให้เกิดการเพาะพันธุ์ห่านทั่วอำเภอหลินฉวี ศูนย์พัฒนาปศุสัตว์ประจำท้องถิ่น จึงได้จัดตั้ง “สมาคมอุตสาหกรรมห่านอำเภอหลินฉวี” ขึ้น เพื่อส่งเสริมโมเดลการพัฒนาร่วมกันระหว่างเกษตรกรและภาคเอกชน ตลอดจนสร้างการรับรู้และรับประกันช่องทางการจัดจำหน่ายสำหรับผู้เพาะพันธุ์ห่านในพื้นที่

        ในช่วงแรก ห่านเมืองล็องด์ในอำเภอหลินฉวี สามารถเพาะพันธุ์ลูกห่านได้เพียงปีละ 2 ครั้งเท่านั้น ซึ่งไม่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้น

        เกา หยวนเหลียง หัวหน้าจากบริษัท Shandong Zunrun Shengluoje Food Co., Ltd. ได้นำทีมคิดหาวิธีแก้ไข โดยร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ซานตง เพื่อคิดค้นหาวิธีการฟักไข่นอกฤดูกาล ซึ่งจากการทดลอง พวกเขาสามารถเพาะพันธุ์ลูกห่านได้ตลอดทั้งปี และเอาชนะความท้าทายเรื่องการเพาะพันธุ์ห่านนอกฤดูกาลได้ในที่สุด

       เพื่อส่งเสริมการส่งออกฟัวกราส์ เกาได้สร้างโรงงานผลิตที่ได้มาตรฐานสหภาพยุโรป และลงทุนกว่า 210 ล้านหยวน (ราว 1,050 ล้านบาท) ในโครงการศูนย์สาธิตฟัวกราส์ที่ได้มาตรฐานสากลแห่งแรกของจีน ซึ่งโครงการดังกล่าวได้กลายมาเป็นช่องทางความร่วมมือด้านการผลิตที่มั่นคงและมีประสิทธิภาพของอำเภอหลินฉวี ช่วยกระตุ้นการเติบโตในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง

       ปัจจุบัน อำเภอหลินฉวี มีเครือข่ายช่องทางการจัดจำหน่ายที่มั่นคงทั้งในญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป โดยส่งออกฟัวกราส์มากกว่า 30 ตันต่อเดือน 

ไม่หยุดสร้างสรรค์เมนู “ห่าน” สไตล์ใหม่ๆ

       นอกเหนือจากฟัวกราส์แช่แข็งแบบดั้งเดิม บริษัทท้องถิ่นในอำเภอหลินฉวี ยังได้คิดค้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่น ซอสตับห่าน และตับห่านสไลซ์ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น

       ปัจจุบัน กลุ่มลูกค้าของฟัวกราส์จากอำเภอหลินฉวี ส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมการจัดเลี้ยงระดับไฮเอนด์ เช่น ร้านอาหารตะวันตก และร้านอาหารญี่ปุ่น

        เย่ เซิน รองเลขาธิการคณะทำงานพรรคฯ ประจำอำเภอหลินฉวี กล่าวว่า ในอนาคตทางอำเภอมีแผนที่จะช่วยสนับสนุนภาคธุรกิจในการเพิ่มศักยภาพรองรับตลาดร้านค้าปลีกและซูเปอร์มาร์เก็ต เพื่อทำให้ฟัวกราส์เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคทั่วไปได้ง่ายมากขึ้น

‍

ที่มา: People’s Daily