อดีตซีอีโอ Google ชี้ DeepSeek เป็น 'จุดเปลี่ยนสำคัญ' ในสมรภูมิ AI

        บทความที่เผยแพร่ในเดอะ วอชิงตัน โพสต์เมื่อวันอังคาร (28 ม.ค.) ระบุว่าเอริก ชมิดต์ อดีตซีอีโอของ Google ได้กล่าวถึงการเติบโตของดีฟซีก (DeepSeek) แอปแชทบอทผู้ช่วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) สัญชาติจีนว่าเป็น "จุดเปลี่ยนสำคัญ"ในการแข่งขันด้านเอไอระดับโลก

        ชมิดต์เน้นว่า DeepSeek แสดงให้เห็นว่าจีนสามารถก้าวขึ้นมาแข่งขันกับบริษัทยักษ์ใหญ่ด้วยทรัพยากรที่น้อยกว่า นับเป็นสัญญาณเตือนให้สหรัฐฯ เร่งพัฒนา AI โอเพนซอร์ส (open-source AI) พร้อมกระตุ้นให้มีการลงทุนเพิ่มขึ้นในโครงสร้างพื้นฐานAI และโครงการริเริ่มสำคัญ เช่น สตาร์เกต (Stargate) รวมถึงเรียกร้องให้ห้องปฏิบัติการวิจัยระดับแนวหน้าแบ่งปันแนวทางการพัฒนา

        DeepSeek ก่อตั้งขึ้นในปี2023 และเพิ่งเปิดตัวโมเดลล่าสุด DeepSeek-R1 ในเดือนมกราคม2025 ความสนใจล้นหลามจากทักษะการใช้เหตุผลขั้นสูง โดยโมเดลรุ่นนี้มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับระบบปัญญาประดิษฐ์ชั้นนำอย่างแชทจีพีที(ChatGPT) ของโอเพนเอไอ (OpenAI) แต่ใช้ต้นทุนการพัฒนาที่ต่ำกว่ามาก

        การเปิดตัว DeepSeek-R1 สั่นสะเทือนอุตสาหกรรมเทคโนโลยีส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัทยักษ์ใหญ่ เช่น Microsoft, Metaและ Nvidia ปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญในวันจันทร์ (27 ม.ค.)ที่ผ่านมา

        ชมิดต์ยังเน้นย้ำว่า การพัฒนา AI โอเพนซอร์สเป็นทางรอดเดียวของสหรัฐฯพร้อมเรียกร้องให้ภาครัฐและเอกชนร่วมมือกันพัฒนา AI ที่สามารถแข่งขันได้ในระดับโลกและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในสมรภูมิ AI ที่กำลังทวีความร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ

‍

(แฟ้มภาพซินหัว: คนเยี่ยมชมงานการประชุมสุดยอดเทคโนโลยีประจำปีของเลอโนโวในเมืองซีแอตเทิลของสหรัฐฯวันที่ 15 ต.ค. 2024)

ที่มา: สำนักข่าวซินหัว