“สี จิ้นผิง” ร่วมฉลอง 25 ปี ฮ่องกงคืนสู่มาตุภูมิ ย้ำบทบาทฮ่องกงสำคัญต่อจีน
1
July
2024
2
July
2022
การเดินทางเยือนฮ่องกงเพื่อร่วมฉลองโอกาสครบรอบ 25 ปีที่ฮ่องกงได้กลับมาอยู่ภายใต้การปกครองของจีนของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง พร้อมเป็นประธานในพิธีสาบานตนของจอห์น ลี ผู้นำฮ่องกงคนใหม่ เมื่อวันที่ 1 ก.ค. นับเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงระดับความสำคัญของฮ่องกงที่มีต่อรัฐบาลปักกิ่ง และยังถือเป็นการเดินทางออกนอกจีนแผ่นดินใหญ่ครั้งแรกของผู้นำจีนในรอบ 2 ปีครึ่งนับตั้งแต่เกิดการระบาดโควิด-19
นับจากนี้ต่อไปในอนาคต ฮ่องกงจะเดินหน้าไปในทิศทางใด? สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองฮ่องกง กระทรวงพาณิชย์ ได้ถอดรหัสผ่านคำกล่าวสุนทรพจน์ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ซึ่งมีใจความสำคัญหลัก ๆ ที่สะท้อนการกำหนดทิศทางอนาคตของฮ่องกง รวมถึงนโยบายของผู้ว่าการฮ่องกงคนใหม่ไว้อย่างน่าสนใจ ดังนี้
แน่วแน่ในหลักการ "หนึ่งประเทศสองระบบ"
ฮ่องกงยังคงดำเนินหลักการปกครองหนึ่งประเทศสองระบบซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นระบบที่ดีและประสบความสำเร็จโดยไม่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง โดยรัฐบาลกลางจะให้การสนับสนุนต่อไป เพราะฮ่องกงถือเป็นผู้บุกเบิกขับเคลื่อนกระแสปฏิรูปและการเปิดประเทศ โดยฮ่องกงได้ใช้ประโยชน์จากบทบาทของการเป็นหน้าต่างและสะพานที่สำคัญเพื่อเชื่อมโลกให้กับแผ่นดินใหญ่ เหล่านี้ถือเป็นการอุทิศตนที่ไม่อาจแทนที่กันได้ในระยะยาว
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นที่ผู้นำจีนกล่าวถึงอีก 4 ประเด็นที่คาดการณ์ว่า จะเป็นการวางแนวทางให้ผู้ว่าการฮ่องกงคนใหม่นำไปปรับใช้ในการวางนโยบายบริหารฮ่องกงต่อไป ได้แก่
1. ปรับปรุงหลักการปกครอง โดยเน้นย้ำให้เลือกข้าราชการที่มีความสามารถที่รักชาติและฮ่องกง สำหรับปรัชญาในการบริหารควรจะได้รับการปฏิรูป และสร้างสมดุลระหว่างรัฐบาลกับตลาดเพื่อที่จะส่งเสริมรัฐบาลให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้นควบคู่ไปกับตลาดที่มีประสิทธิภาพ เพื่อนำไปสู่รูปลักษณ์ใหม่ของการปกครองแบบธรรมาภิบาล
2. ให้รักษาพลังแรงขับเคลื่อนในการพัฒนาให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น เพราะฮ่องกงอยู่ในจุดของตำแหน่งที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ เงื่อนไขที่เอื้อประโยชน์และมีขอบเขตสำหรับการพัฒนาที่กว้างไกล ประกอบกับการได้รับการสนับสนุนเต็มจากอำนาจส่วนกลางในการที่จะฉวยโอกาสครั้งประวัติศาสตร์ที่นำเสนอโดยการพัฒนาของประเทศ ขณะเดียวกันก็เป็นไปตามกลยุทธ์แห่งชาติ (แผนพัฒนา 5 ปี ฉบับที่ 14) นั่นคือ แผนพัฒนาโครงการอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า และความร่วมมือพัฒนาคุณภาพในระดับสูงของข้อริเริ่ม “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”
สิ่งที่ยืนยันได้ถึงการให้การสนับสนุนฮ่องกงอย่างเต็มรูปแบบตามที่ผู้นำจีนได้กล่าวไว้ เห็นได้ชัดเจนจากการเดินทางมาฮ่องกงครั้งนี้ด้วยตัวเอง, การบรรลุข้อตกลงระหว่าง China Securities Regulatory Commissions and Hong Kong’s Securities and Futures Commission ในการรวมตลาดซื้อขายกองทุนรวมที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ระหว่างฮ่องกง เซี่ยงไฮ้ และเซินเจิ้นที่จะเริ่มในวันที่ 4 ก.ค. 2565 ถือเป็นการขยายตลาดที่นอกเหนือจากตลาดซื้อขายหุ้นครั้งแรก จุดนี้นอกจากจะเพิ่มปริมาณเงินทุนหมุนเวียนในตลาดฮ่องกงแล้ว ยังสามารถที่จะทำให้ฮ่องกงกลายเป็นศูนย์กลางซื้อขายกองทุนรวมในอนาคต อันเป็นบทบาทเฉพาะที่ช่วยการเชื่อมต่อระหว่างตลาดโลกและตลาดจีน ข้อตกลงที่บรรลุนี้อาจถือได้ว่าเป็นของขวัญจากรัฐบาลกลางในการครบรอบ 25 ปีของการคืนเกาะฮ่องกง
นอกจากนี้ ยังมีการเปิดตัวของพิพิธภัณฑ์พระราชวังฮ่องกง (Hong Kong Palace Museum) เมื่อวันที่ 2 ก.ค. 2565 ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์สำคัญ โดยการสนับสนุนของรัฐบาลจีน ฮ่องกงและ Jockey Club เพื่อพัฒนาให้ฮ่องกงเป็นศูนย์กลางตะวันออกพบตะวันตกในการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างประเทศดังที่ระบุไว้ในแผนพัฒนา 5 ปี ฉบับที่ 14 และถือเป็นการให้ยืมงานศิลปะที่มีมูลค่ามากที่สุดของพิพิธภัณฑ์พระราชวังกรุงปักกิ่งแก่สถาบันวัฒนธรรมนอกอาณาเขตของจีนแผ่นดินใหญ่ ทั้งหมดทั้งมวลล้วนเกิดจากการสนับสนุนจากรัฐบาลกลาง
3. การแก้ปัญหาประเด็นปากท้องที่เป็นปัญหารากลึกของชาวฮ่องกง โดยผู้นำจีนกล่าวว่า ปัญหาของชาวฮ่องกง คือ ราคาและขนาดของที่อยู่อาศัย การศึกษา และบ้านพักคนชราที่ดีกว่านี้ รวมถึงโอกาสของธุรกิจใหม่ ๆ
4. รู้รักสามัคคีและปรองดองกัน ผู้นำจีนได้กล่าวเน้นย้ำว่า โอกาสเป็นของคนทุกหมู่เหล่าตราบใดที่เคารพกฎหมายและสนับสนุนนโยบายการปกครองในรูปแบบหนึ่งประเทศสองระบบ ควรให้โอกาสแก่ผู้เยาว์ เพราะอนาคตของผู้เยาว์คืออนาคตของฮ่องกงและของชาติ
ในตอนท้ายของคำกล่าวสุนทรพจน์ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้กล่าวว่า ความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของการปกครองตามนโยบายหนึ่งประเทศสองระบบของฮ่องกง ถือเป็นการเติมเต็มความสมบูรณ์ของกระบวนการทางประวัติศาสตร์ และด้วยความสนับสนุนจากแผ่นดินแม่จะยิ่งทำให้ฮ่องกงประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น
สัญญาณบวกอนาคตฮ่องกงกับโอกาสของไทย
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองฮ่องกง วิเคราะห์ว่า ผลจากการเยือนของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้ส่งสัญญาณบวกที่ชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางในอนาคตของฮ่องกงรวมถึงสถานะการปกครองหนึ่งประเทศสองระบบ การที่ผู้นำระดับสูงสุดของจีนได้กล่าวชื่นชมและให้คำมั่นแก่ฮ่องกงถึงรูปแบบการปกครองที่ดำเนินอยู่ ช่วยให้การวางนโยบายของผู้ว่าการฮ่องกงคนใหม่สามารถพุ่งเป้าลงไปที่การพัฒนาประเทศในมิติอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านเทคโนโลยี สังคมหรือเศรษฐกิจที่ให้ผนวกรวมเข้ากับแผนพัฒนาประเทศแม่ฉบับที่ 14
ในขณะเดียวกัน การเน้นย้ำว่ารัฐบาลกลางพร้อมที่จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มรูปแบบ ถือเป็นสัญญาณขาขึ้นสำหรับการค้าและการลงทุนทั้งของจีน ฮ่องกง และไทย โดยผู้นำจีนยอมรับว่าฮ่องกงถือเป็นประตูเชื่อมระหว่างโลกและจีนแผ่นดินใหญ่ จุดนี้ถือเป็นโอกาสของผู้ประกอบการของไทยที่จะวางแผนการค้าล่วงหน้า โดยใช้ฮ่องกงเป็นฐานเพื่อกระจายสินค้า และเนื่องจากตอนนี้จีนยอมลดมาตรการการกักตัวให้เหลือ 10 วัน (7 วันกักตัวโรงแรม 3 วันกักตัวที่บ้าน) เราจะได้เห็นการเคลื่อนไหวของกิจกรรมทางการค้าเพิ่มมากขึ้นในไตรมาสหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดหุ้นฮ่องกง เพราะการผนวกตลาดซื้อขายกองทุนรวมของจีนและฮ่องกงเข้าด้วยกัน รวมถึงการที่ตลาดหุ้นฮ่องกงได้ประกาศจะเปิดสำนักงานเพิ่มอีก 2 สาขาทั้งที่นิวยอร์กและในยุโรป เหล่านี้จะส่งผลให้การระดมเงินทุนมีปริมาณที่สูงขึ้นกว่าเดิม
นอกจากนี้ ในส่วนของการโปรโมท Soft Power รัฐบาลไทยอาจจับมือร่วมกันกับ Hong Kong Palace Museum ในการผลักดันศิลปะไทยเข้าสู่ตลาดเพื่อสอดรับกับแผนโปรโมทตะวันออกพบตะวันตกของฮ่องกง อันถือเป็นการเปิดทางให้ศิลปินของไทยเข้าสู่ตลาดสากลโดยใช้ฮ่องกงเป็นฐานได้