หัวเว่ยมุ่งสร้างนวัตกรรมอย่างไม่หยุดยั้ง เร่งกระบวนการเปลี่ยนผ่านเชิงดิจิทัล
15
November
2021
23
September
2021
23 ก.ย. 2564 หัวเว่ยจัดงานใหญ่ประจำปีสำหรับอุตสาหกรรม ICT ระดับโลก“HUAWEI CONNECT 2021” ภายใต้หัวข้อหลัก“มุ่งสู่ดิจิทัล” เพื่อค้นหาแนวทางการผนวกเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ากับการใช้งานเชิงธุรกิจให้ดียิ่งขึ้นรวมถึงกรณีศึกษาในภาคอุตสาหกรรมเพื่อรับมือกับความท้าทายสำคัญต่างๆ ที่ภาคธุรกิจต้องเผชิญและหาวิธีให้ทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมนี้ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อฟูมฟักอีโคซิสเต็มของอุตสาหกรรมแบบเปิดกว้างและผลักดันความสำเร็จไปด้วยกัน
งานในครั้งนี้ประกอบด้วยการกล่าวปราศรัยสำคัญ4 ครั้ง งานประชุม 5 ครั้ง งานอภิปรายย่อย 66 ครั้ง โดยมีวิทยากรมากกว่า 200 ท่าน ซึ่งรวมบรรดาผู้มีวิสัยทัศน์ในภาคอุตสาหกรรมผู้นำในภาคธุรกิจ ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีระดับหัวกะทิ และพาร์ทเนอร์ต่างๆ ในอีโคซิสเต็มเข้าร่วมทั้งยังถ่ายทอดสด 11 ภาษา ผ่านเว็บไซต์ของหัวเว่ยและสื่อพาร์ทเนอร์ต่างๆ นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงนิทรรศการแบบออนไลน์ การเยี่ยมชมฮอลล์จัดแสดงงานจากทางไกล และการเปิดวงอภิปรายในหัวข้อต่างๆเพื่อมอบประสบการณ์ออนไลน์แบบมีปฏิสัมพันธ์กันและครบจบในที่เดียว
อีริค สวี ประธานกรรมการบริษัทหมุนเวียนตามวาระของหัวเว่ย ได้กล่าวเปิดงานในหัวข้อ “มุ่งสร้างนวัตกรรมอย่างไม่หยุดยั้ง เร่งสร้างกระบวนการเปลี่ยนผ่านเชิงดิจิทัล”ว่าการช่วยภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ในการเปลี่ยนผ่านสู่เทคโนโลยีดิจิทัลถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของพันธกิจหัวเว่ยที่ต้องการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้าถึงทุกผู้คนทุกครัวเรือน และทุกองค์กร เพื่อสร้างโลกอัจฉริยะที่เชื่อมต่อถึงกันอย่างสมบูรณ์แบบ
“การพัฒนาด้านดิจิทัลนั้นต้องพึ่งพาเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นหลักเราต้องมุ่งสร้างนวัตกรรมและคุณค่าใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เทคโนโลยีดิจิทัลตอบโจทย์ได้โดยเทคโนโลยีดิจิทัลที่สำคัญมี 3 ด้าน ได้แก่ เทคโนโลยีคลาวด์ AI และเทคโนโลยีด้านเครือข่าย”คุณอีริค สวี กล่าวและยังเปิดเผยถึงความคืบหน้าของหัวเว่ยในด้านเทคโนโลยีทั้ง3 นี้ รวมถึงสิ่งที่หัวเว่ย ทำเพื่อผลักดันการพัฒนาที่ลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และแนวทางที่อุตสาหกรรมเทคโนโลยีในภาพรวมจะมุ่งไปข้างหน้า
อีริค สวี อธิบายว่า ธุรกิจหัวเว่ยคลาวด์(HUAWEI CLOUD) ได้เปิดตัวสู่ตลาดไปเมื่อ4 ปีที่แล้ว และได้ดึงดูดนักพัฒนากว่า 2.3 ล้านคน พาร์ทเนอร์ด้านการให้คำปรึกษากว่า14,000 ราย พาร์ทเนอร์ด้านเทคโนโลยีกว่า 6,000 ราย และยังส่งมอบบริการมากกว่า4,500 แบบภายใน Marketplaceของหัวเว่ยคลาวด์
ปัจจุบันหัวเว่ยคลาวด์ กลายเป็นแพลตฟอร์มสำคัญสำหรับทั้งบริษัทด้านอินเทอร์เน็ตองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ และภาครัฐ ในการปรับเปลี่ยนองค์กรของพวกเขาเข้าสู่ยุคดิจิทัล
ภายในงานครั้งนี้ยังได้เปิดตัวบริการที่ใช้เทคโนโลยีคลาวด์เป็นพื้นฐานในภาคอุตสาหกรรมเป็นครั้งแรกในชื่อว่าUCS ซึ่งเป็นบริการที่ใช้เทคโนโลยีคลาวด์เป็นพื้นฐานและสามารถใช้งานได้ทุกที่บนหัวเว่ยคลาวด์ด้วยบริการ UCS นี้หัวเว่ยวางแผนที่จะส่งมอบประสบการณ์การใช้งานที่มีความเสถียรให้แก่องค์กรต่างๆ ในขณะที่พวกเขาใช้งานแอปพลิเคชันที่มีพื้นฐานอยู่บนเทคโนโลยีคลาวด์ โดยไม่มีข้อจำกัดทั้งในด้านภูมิศาสตร์ด้านการใช้บริการคลาวด์ข้ามประเภท หรือข้อจำกัดในด้านทราฟฟิกข้อมูล ซึ่งจะมีส่วนช่วยเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลในทุกภาคอุตสาหกรรม
ทั้งนี้เทคโนโลยีเต็มรูปแบบ (full-stack)ซึ่งเป็นสายผลิตภัณฑ์ด้าน AI ที่ครบวงจรสำหรับทุกสถานการณ์ของหัวเว่ยซึ่งเปิดตัวเมื่อปีพ.ศ. 2561 และได้รับการพัฒนาตามที่คาดหมายไว้ และโครงสร้าง MindSpore ของหัวเว่ยก็ได้กลายเป็นโครงสร้างด้านการประมวลผลAI ที่นำไปใช้อย่างแพร่หลายในประเทศจีนในขณะเดียวกัน คลัสเตอร์ AIAtlas 900 รวมถึงการให้บริการคลาวด์ที่ปฏิบัติการด้วยคลัสเตอร์ตัวนี้ก็ได้ให้บริการคลาวด์แก่ธุรกิจองค์กรเป็นจำนวนมากกว่า 300 แห่งในปัจจุบันนี้
สวีได้อธิบายเพิ่มเติมถึงการที่หัวเว่ยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อสนับสนุนการพัฒนาที่ลดก๊าซคาร์บอนได้ออกไซด์อันเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นในระดับโลกที่จะก้าวสู่จุดสูงสุดของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และความเป็นกลางทางคาร์บอนยิ่งไปกว่านั้น หัวเว่ยยังได้เน้นย้ำถึงแนวคิดหลัก 3 ประการ ได้แก่
- การลงทุนและการพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีต่างๆที่ช่วยประหยัดพลังงาน เพื่อให้เกิดผลิตภัณฑ์ ICT ที่ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพสำหรับอุตสาหกรรมICT ที่มีปริมาณการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำ
- การลงทุนในนวัตกรรมพลังงานอิเล็กทรอนิกส์(power electronics) ผสานกับเทคโนโลยีดิจิทัลเข้าด้วยกันเพื่อยกระดับพลังงานสะอาดและกระบวนการเปลี่ยนผ่านเชิงดิจิทัลของพลังงานแบบดั้งเดิม
- มอบการสนับสนุนทางเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อช่วยเหลือทุกภาคส่วนให้เปลี่ยนแปลงสู่ความเป็นดิจิทัลและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
ด้าน จาง ปิงอัน ประธานกรรมการบริหารของหน่วยธุรกิจคลาวด์และประธานฝ่ายบริการลูกค้าคลาวด์ของหัวเว่ยได้อธิบายถึงแนวคิดเชิงกลยุทธ์ของหัวเว่ยคลาวด์ พร้อมเปิดตัวการให้บริการและผลิตภัณฑ์ใหม่ภายในงานว่า“กุญแจสู่ความสำเร็จของการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลคือการคิดอย่างคลาวด์และปฏิบัติอย่างคลาวด์โดยแท้จริง โดยหัวเว่ยคลาวด์ พร้อมทั้งลูกค้าและพาร์ทเนอร์ของเราร่วมกันศึกษาความเป็นดิจิทัลและศักยภาพของการให้บริการในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการแบบครอบคลุมทุกด้าน(Everything as aService) การให้บริการในด้านโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure as a Service) ให้เข้าถึงได้จากทั่วโลกการให้บริการด้านเทคโนโลยี (Technologyas a Service) สำหรับนวัตกรรมที่ยืดหยุ่น และการให้บริการด้านความเชี่ยวชาญ(Expertise as a Service)สำหรับความเชี่ยวชาญร่วมกัน”
นอกจากนี้จางยังได้ประกาศพื้นที่การให้บริการเพิ่มอีก 2 แห่ง ได้แก่ ประเทศเม็กซิโกและเขตอูหลานฉาปู้ในประเทศจีนพร้อมเปิดตัวการให้บริการหัวเว่ยคลาวด์ อีก 10 รูปแบบ ประกอบด้วย MacroVerse แพลตฟอร์มแอปพลิเคชันเป็นบริการ(aPaaS) ของหัวเว่ยคลาวด์OptVerse AI Solver,HUAWEI CLOUD Stack 8.1, SparkRTC – การให้บริการเสียงและวิดีโอที่ประมวลผลทันทีและ Pangu โมเดลขนาดใหญ่สำหรับโมเลกุลของยา
ทั้งนี้ หัวเว่ยได้จัดงาน HUAWEI CONNECT 2021ในรูปแบบออนไลน์ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย. ถึงวันที่ 31 ต.ค. ภายใต้หัวข้อหลัก “มุ่งสู่ดิจิทัล”หัวเว่ยจะร่วมศึกษาการนำเทคโนโลยีต่างๆ อาทิ คลาวด์AI และ5G ไปใช้จริงในทุกอุตสาหกรรมรวมถึงการศึกษาว่าเทคโนโลยีเหล่านี้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพ เพิ่มความสามารถในการปรับตัวและที่สำคัญที่สุดคือเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่องค์กรทุกรูปแบบและทุกขนาดได้อย่างไร ท่ามกลางช่วงเวลาที่เรากำลังก้าวสู่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจนี้สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานครั้งนี้สามารถเข้าไปดูได้ที่ https://www.huawei.com/en/events/huaweiconnect