e.webp)
'หอการค้าไทย-จีน' เผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่น ไตรมาส 2/2568 ชี้สงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ ส่งผลต่อศก.ไทย

7
March
2025

7
March
2025
ผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทยจีน ประจำไตรมาส 2/2568 สงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน มีผลต่อเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย เร่งรัดโครงการเชื่อมต่อรถไฟความเร็วสูงระหว่างจีนและไทย ภาพลักษณ์ด้านความปลอดภัยในประเทศไทย เป็นปัจจัยท้าทายต่อการท่องเที่ยวชาวจีนในปี 2568

นายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานกรรมการ หอการค้าไทย-จีน เปิดเผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทยจีนประจำไตรมาสที่สองปี2568 ซึ่งได้มีการสำรวจระหว่างวันที่ 18 ถึง 27 กุมภาพันธ์ 2568 ผู้ให้ข้อมูลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นประกอบด้วย (1) ประธานคณะกรรมการกิตติมศักดิ์ คณะกรรมการบริหาร และคณะกรรมการหอการค้าไทยจีน (2) ประธานและกรรมการสมาชิกสมาคมต่างๆของสหพันธ์หอการค้าไทยจีนและ (3) กลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ของหอการค้าไทยจีนรวมทั้งสิ้น จำนวน 459 คน

การสำรวจครั้งนี้เพื่อรับทราบความคิดเห็นว่าสงครามการค้าของชาติมหาอำนาจจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยในปี 2568 อย่างไรและผลกระทบที่จีนได้ดำเนินมาตรการตอบโต้ทางการค้าต่อสหรัฐอเมริกา ต่อแนวโน้มที่จีนส่งออกสินค้ามายังประเทศไทยโดยอาศัยแพลตฟอร์มพาณิชอิเล็กทรอนิกส์ที่มีความเข้มแข็งของจีนอีกทั้งยังสำรวจผลกระทบทางลบของสงครามการค้าต่อสินค้าที่ไทยส่งออกไปจีนท่ามกลางความร้อนระอุของสงครามการค้า
ผลของการสำรวจพบว่าร้อยละ69 ของผู้ตอบแบบสำรวจ ให้ความเห็นว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนจะมีผลกระทบเป็นอย่างมากต่อเศรษฐกิจโลกในปี2568 มีผู้ตอบแบบสำรวจร้อยละ 15.5 คิดว่าผลกระทบดังกล่าวเกิดขึ้นชั่วคราวเท่านั้นเพราะจะมีการเจรจาลดความขัดแย้งตามมาขณะที่มีส่วนน้อยให้ความเห็นว่าผลกระทบนั้นอยู่ในระดับวิกฤติ ส่วนความเห็นต่อสงครามการค้าที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในปีนี้มีร้อยละ 30.5 เห็นว่าผลกระทบนั้นเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว แต่ก็ยังมีร้อยละ51.5 ให้ความเห็นว่าจะมีผลกระทบเป็นอย่างมาก ทั้งนี้สรุปได้ว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนนั้นมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยเป็นอย่างมากเป็นเรื่องพึงระวัง ที่ต้องมีการติดตามอย่างใกล้ชิดเพราะสถานการณ์มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาและซึ่งยังไม่มีมีแนวโน้มที่จะดีขึ้น

ที่ผ่านมาจีนมีมาตรการตอบโต้ทางการค้าต่อนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐอเมริกาและการตอบโต้ดังกล่าวของสองประเทศอาจจะมีผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อการค้าระหว่างไทยและจีนร้อยละ51 ของผู้ตอบแบบสำรวจลงความเห็นว่าอาจจะมีผลกระทบต่อไทยบ้าง ในขณะที่ร้อยละ24.3 คาดว่าจะทำให้นักธุรกิจจีนมาลงทุนและค้าขายกับไทยมากขึ้นเพราะจีนเองนั้นก็ต้องหาแหล่งผลิตใหม่ และส่งสินค้าออกมายังตลาดที่นิยมสินค้าจีนอยู่แล้วส่วนแนวโน้มที่จีนส่งสินค้าออกมายังไทยโดยอาศัยแพลตฟอร์มพาณิชอิเล็กทรอนิกส์ที่มีความเข้มแข็งของจีนนั้นร้อยละ 52.4 คาดว่าแนวโน้มดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย แต่ในขณะที่ร้อยละ 33.7 ลงความเห็นว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นเป็นอย่างมาก กล่าวได้ว่าผลของมาตรการตอบโต้ของจีนต่อสงครามทางการค้ามีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยบ้างแต่ในทางกลับกันจะทำให้นักธุรกิจจีนมาลงทุนในไทยและค้าขายกับไทยมากขึ้นโดยการค้าขายผ่านระบบพาณิชอิเล็กทรอนิกส์ก็จะเพิ่มสูงขึ้นเช่นเดียวกันแต่อาจจะไม่มากนัก
ส่วนสินค้าส่งออกของไทยไปยังจีนนั้น ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ชิ้นส่วนยานยนต์ ผลิตภัณฑ์เหล็กและเหล็กกล้า สินค้าเกษตรและสินค้าเกษตรแปรรูปและผลิตภัณฑ์ยางพาราที่ใช้ทำยางล้อรถยนต์ จะชะลอตัวหรือหดตัวลงซึ่งเป็นผลมาจากสงครามการค้าซึ่งในสินค้าส่งออกเหล่านี้ เป็นสินค้าขั้นพื้นฐาน ชิ้นส่วนเพื่อนำไปประกอบและสินค้ากึ่งสำเร็จรูปที่จีนจะนำไปเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่การผลิตสินค้าขั้นสุดท้ายเพื่อการอุปโภคและบริโภค

เพื่อบรรเทาผลกระทบของสงครามการค้าทางออกหนึ่งคือประเทศไทยควรเจรจาเปิดเสรีการค้าให้ครอบคลุมประเภทสินค้าและบริการให้มากขึ้นโดยเฉพาะข้อตกลง RCEP (Regional Comprehensive EconomicPartnership) ซึ่งเป็นข้อตกลงระหว่างอาเซียนกับอีกหกประเทศในภูมิภาคจากการสำรวจผู้ตอบแบบสอบถามร้อยละ 54 ให้ความเห็นว่าควรเร่งเจรจาเปิดเสรีโดยการลดภาษีให้ครอบคลุมรายการสินค้ามากขึ้นและเปิดภาคบริการให้มากขึ้น ในขณะที่ร้อยละ 42.3 ลงความเห็นว่าควรจะเจรจาแบบค่อยเป็นค่อยไปไม่ต้องเร่งรีบ
เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์2568นายกรัฐมนตรี แพรทองธาร ชินวัตร ได้เดินทางไปเยือน ประธานาธิบดี สี จิ้นผิงของจีน และทั้งสองประเทศได้วางแนวทางความร่วมมือระหว่างประเทศหลายด้าน การสำรวจได้ถามถึงมาตรการหรือโครงการความร่วมมือระหว่างประเทศที่ควรจัดทำอย่างเร่งด่วนผลการสำรวจความคิดเห็น พบว่า โครงการเชื่อมต่อรถไฟความเร็วสูงระหว่างจีนและไทยได้รับความสนใจเป็นพิเศษตามมาด้วยมาตรการการอำนวยความสะดวกทางด้านศุลกากรโดยเฉพาะสำหรับสินค้าเกษตร และมาตรการดึงดูดการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษEEC

ในหลายปีที่ผ่านมารถยนต์ไฟฟ้าของจีนได้รับความนิยมในประเทศไทยเป็นอย่างมากประกอบกับนโยบายภาครัฐที่สนับสนุนให้มีการใช้รถยนต์ไฟฟ้าและพัฒนาการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจนในปัจจุบันบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าจีน ได้เข้ามาตั้งโรงงานในไทยและเริ่มสายการผลิตแล้ว จากการสอบถามความคิดเห็นถึงผลประโยชน์ต่อเศรษฐกิจไทยได้คำตอบดังนี้การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของจีนในประเทศไทยจะทำให้ เกิดการพัฒนาทักษะแรงงานและการจ้างงานมากขึ้นเป็นลำดับแรกในลำดับที่สองเป็นกระตุ้นให้เกิดอุตสาหกรรมต่อเนื่องอื่น ๆ ตามมาด้วยการเปลี่ยนผ่านจากศูนย์กลางการผลิตรถยนต์สันดาปเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคและ การใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในไทยมากขึ้น ทั้งนี้มีข้อสังเกตว่า การถ่ายทอดเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าจีนสู่ผู้ประกอบการไทยนั้นยังเป็นข้อจำกัดอยู่และสายการผลิตอาจจะใช้หุ่นยนต์มากขึ้น ซึ่งหมายความว่าการจ้างงานอาจจะไม่ได้สูงเท่ากับที่คาดการณ์ไว้
ในปี 2567จำนวนนักท่องเที่ยวจากจีนที่มามายืนประเทศไทยมีจำนวน 6.7 ล้านคนซึ่งมีอัตราการเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าเมื่อเทียบกับปี 2566เป็นที่ทราบดีเพราะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทำรายได้ให้กับประเทศไทยสูงมากในแต่ละปีในการสำรวจครั้งนี้ ได้สอบถามถึงปัจจัยท้าทายต่อการท่องเที่ยวของชาวจีนในปี 2568ผู้ตอบแบบสำรวจ ให้ความเห็นว่าภาพลักษณ์ทางด้านความปลอดภัยและการหลอกลวงในประเทศไทยต้องรีบแก้ไขโดยเร็วที่สุดประเด็นที่ตามมาคือสื่อออนไลน์ต่างประเทศที่ได้ประชาสัมพันธ์เชิงลบต่อการท่องเที่ยวในไทยต้องรีบแก้ไขอย่างเร่งด่วนตามมาเพื่อให้นักท่องเที่ยวชาวจีนมาเยือนเมืองไทยมากขึ้น