จับสัญญาณวาทะ ‘สี จิ้นผิง’ ในพิธีเปิดงาน CAEXPO ครั้งที่ 17 จีนเดินหน้ากระชับความสัมพันธ์อาเซียนรอบด้าน
16
December
2021
15
December
2020
ในการจัดงานมหกรรมแสดงสินค้าจีน-อาเซียน (China-ASEAN Expo: CAEXPO) ครั้งที่ 17 ระหว่างวันที่ 27-30 พ.ย.ที่ผ่านมา ณ นครหนานหนิง กว่างซี ประเทศจีน ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ได้กล่าวถ้อยแถลงผ่านทางวิดีทัศน์ ในโอกาสเปิดงานเมื่อวันที่ 27 พ.ย. โดยย้ำถึงเจตนารมณ์ของจีนที่ยินดีกระชับความร่วมมือด้านต่างๆกับอาเซียนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะด้านการเชื่อมโยงแผนพัฒนาเชิงลึก เศรษฐกิจการค้า เทคโนโลยีนวัตกรรมและเศรษฐกิจดิจิทัล การป้องกันการแพร่ระบาดและสาธารณสุข
คำปราศรัยของผู้นำจีนในงานมหกรรมระหว่างประเทศที่สำคัญครั้งนี้ ส่งสัญญาณอะไรบ้าง?
นสพ.People’s Daily ได้ตีพิมพ์บทความเรื่อง ‘คำกล่าวปธน.สีจิ้นผิงได้รับความสนใจในวงกว้าง’ ขึ้นหน้า 1 ของหนังสือพิมพ์ฉบับรุ่งขึ้นในวันที่ 28 พ.ย. โดยสะท้อนนานาทัศนะจากบรรดาผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐของจีน โดยมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
กระชับความร่วมมือการเชื่อมโยงด้านโครงสร้างพื้นฐานระหว่างกัน ภายใต้แรงสนับสนุนจากยุทธศาสตร์ระเบียงการค้าเชื่อมทางบกกับทางทะเลสายใหม่
สี จิ้นผิง กล่าวว่า “จีนและอาเซียนจะร่วมกันเสริมสร้างการเชื่อมต่อโครงข่ายและความร่วมมือทางรถไฟ ทางหลวง ท่าเรือ สนามบิน พลังงาน การสื่อสาร รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ เร่งผลักดันการสร้างระเบียงเศรษฐกิจและโครงการสำคัญที่มีอยู่ และระบบขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบจีน-อาเซียนอย่างแข็งขัน โดยอาศัยแรงสนับสนุนจากยุทธศาสตร์ระเบียงการค้าเชื่อมทางบกกับทางทะเลสายใหม่”
“เส้นทางการขนส่งเชื่อมทางบกกับทางทะเลสายใหม่แห่งภาคตะวันตก (NWLSC) เป็นเส้นทางที่ทะลุผ่านพื้นที่ทางภาคตะวันตกของจีน ด้านหนึ่งเชื่อมต่อไปถึงเอเชียกลางและยุโรปผ่านเส้นทางรถไฟจีน-ยุโรป ขณะที่อีกด้านหนึ่งเชื่อมไปถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียใต้ ตะวันออกกลาง แอฟริกา โอเชียเนียฯลฯ ผ่านทางท่าเรือบริเวณรอบอ่าวเป่ยปู้ของกว่างซี เป็นระเบียงเศรษฐกิจและฮับขนส่งโลจิสติกส์ที่สำคัญ ซึ่งเชื่อมโยงกับข้อริเริ่มแถบและเส้นทาง (BRI- Belt and Road Initiative)” เว่ย หราน เลขาธิการกลุ่มผู้นำของพรรคคอมมิวนิสต์จีน (Secretary of the Communist Party of China Leading Group)และรองผู้อำนวยการสามัญประจำสำนักงานบริหารงานวางแผนและก่อสร้างเขตเศรษฐกิจอ่าวเป่ยปู้ กล่าว
ซาน เวย อธิบดีกรมศุลกากรนครฉงชิ่ง กล่าวว่า อาเซียนเป็นคู่ค้าที่สำคัญของนครฉงชิ่ง ช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ ปริมาณการนำเข้าส่งออกไปยังอาเซียนของฉงชิ่งมีมูลค่า 93,190 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 6% คิดเป็น 17.8% ของมูลค่าการค้ากับต่างประเทศทั้งหมดของฉงชิ่งในช่วงเวลาเดียวกัน ในขั้นต่อไปหลังจากนี้ กรมศุลกากรนครฉงชิ่งจะผลักดันการสร้างเส้นทาง NWLSC ต่อไป พร้อมกับการยกระดับการอำนวยความสะดวกด้านพิธีการศุลกากรแบบ 7x24 (ทุกวัน ตลอด 24ชม.) ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ปรับปรุงระบบการยื่นเอกสารให้เป็นแบบอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด ร่วมกันผลักดันพื้นที่กำกับดูแลพิเศษด้านศุลกากร และการพัฒนาร่วมกันของท่าเรือ ตลอดจนเร่งสร้างกลไกความร่วมมือด้านศุลกากรกับประเทศอาเซียนอย่างแข็งขัน "
ปลดล็อกทางการค้า ส่งเสริมการลงทุน ผลักดันการบูรณาการร่วมกันเชิงลึกระหว่างห่วงโซ่อุตสาหกรรม ห่วงโซ่อุปทานและห่วงโซ่คุณค่าของทั้งสองฝ่าย
สิจิ้นผิง กล่าวว่า “จีนยินดีที่จะร่วมมือกับอาเซียนในการปลดล็อคทางการค้า ส่งเสริมการลงทุน เปิดตลาดซึ่งกันและกัน และส่งเสริมการบูรณาการอย่างลึกซึ้งของห่วงโซ่อุตสาหกรรม ห่วงโซ่อุปทานและห่วงโซ่คุณค่าของทั้งสองฝ่าย”
หลิน กวาน นายกเทศมนตรีเมืองเฮ้อโจว กว่างซี กล่าวว่า เมืองเฮ้อโจวพร้อมที่จะใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มที่เปิดกว้างระหว่างจีนและอาเซียน เพื่อเร่งสร้างรูปแบบการพัฒนาแบบ ‘วงจรคู่’ (dual circulation) ซึ่งยึดตลาดในประเทศเป็นแกนหลัก ขณะที่ตลาดทั้งในและต่างประเทศสามารถส่งเสริมซึ่งกันและกันได้ แสวงหาจุดยืนการพัฒนาที่แน่ชัดของเมืองเฮ้อโจว ทุ่มเทกับการปรับปรุงพัฒนาสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ พัฒนาเมืองเฮ้อโจวสู่การเป็นเขตสาธิตนำร่อง ‘ผสมผสานตะวันออก’ ของกว่างซี และผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างมีคุณภาพ
สร้างจุดเด่นทางความร่วมมือใหม่ๆ ยกระดับขีดความสามารถให้กับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของทั้งสองฝ่าย
สี จิ้นผิง กล่าวว่า “จีนยินดีที่จะทำงานร่วมกับประเทศต่างๆในอาเซียน เพื่อคว้าโอกาสของการปฏิวัติเทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงทางอุตสาหกรรมระลอกใหม่ ใช้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบซึ่งกันและกัน มุ่งเน้นความร่วมมือแบบwin-win สร้างจุดเด่นทางความร่วมมือใหม่ๆ เช่น เมืองอัจฉริยะ (Smart City), 5G, ปัญญาประดิษฐ์ (AI), อีคอมเมิร์ซ, บิ๊กดาต้า, บล็อกเชน (Blockchain), การแพทย์ทางไกล (Telemedicine) และสาขาอื่นๆ เสริมสร้างการป้องกันความปลอดภัยของข้อมูลและการประสานงานด้านนโยบาย เพื่อยกระดับขีดความสามารถให้กับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของทั้งสองฝ่าย”
หวัง เหลย เลขาธิการงาน CAEXPO กล่าวว่า “ในอนาคต เราจะยังคงมุ่งมั่นสร้างจุดเด่นทางความร่วมมือใหม่ๆ เพื่อยกระดับขีดความสามารถให้กับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมระหว่างจีน-อาเซียน ซึ่งเป็นพันธกิจหลักที่สำคัญสำหรับการพัฒนาและยกระดับงาน CAEXPO”
“ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวในสุนทรพจน์ตอนหนึ่งว่า ปี 2020 เป็นปีแห่งความร่วมมือทางเศรษฐกิจดิจิทัลจีน-อาเซียน จีนยินดีที่จะทำงานร่วมกับอาเซียนในการสร้างศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลสารสนเทศจีน-อาเซียน (China-ASEAN Information Harbor: CAIH) และสร้างเส้นทางสายไหมดิจิทัล (Digital Silk Road) ซึ่งสิ่งนี้จะเป็นเครื่องชี้แนะแนวทางการปฏิบัติงานในอนาคตของเรา” หลี่ ฉางกวน ประธานคณะกรรมการสภาส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศของจีน (CCPIT) กล่าว
ด้านจาง เหมย หัวหน้านิคมอุตสาหกรรมโลจิสติกส์อีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนจีน-อาเซียน (เหอโข่ว) กล่าวว่า “นิคมกำลังใช้เศรษฐกิจดิจิทัลและวิธีการจัดการข้อมูลสารสนเทศ สำรวจนวัตกรรมใหม่ๆของ ‘อีคอมเมิร์ซ+การค้าชายแดน’ นำอีคอมเมิร์ซมาผนวกเข้ากับการค้าต่างประเทศ เพื่อให้การหมุนเวียนของวงจรคู่ทั้งในและต่างประเทศเป็นไปอย่างราบรื่น”
ที่มา : นสพ. People’s Daily