งาน China-ASEAN Expo พร้อมหนุน RCEP ด้วยจุดเด่นและข้อได้เปรียบ
17
August
2022
30
March
2021
ผู้เขียน: สวี่ จวิ้นหาว นิตยสาร CAP
เนื่องในโอกาสที่ความตกลง RCEP เตรียมมีผลบังคับใช้ งานมหกรรมแสดงสินค้าจีน-อาเซียน (China-ASEAN Expo หรือ CAEXPO) ได้เตรียมความพร้อมเพื่อคว้าโอกาสจาก RCEP ไว้ในเบื้องต้นแล้ว โดย หวัง เหลย เลขาธิการงานฯ ระบุว่า การขยายขอบเขตของงานจากจีน-อาเซียน หรือ “10+1” ไปสู่ ประเทศสมาชิก RCEP หรือ “10+5” จะเป็นทิศทางหลักและแผนยุทธศาสตร์สำหรับการพัฒนางาน CAEXPO ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ และเมื่อพิจารณาจากเนื้อหาของแผนงานแล้ว นี่จะเป็นอีกก้าวที่ยิ่งใหญ่ของการยกระดับและพัฒนางาน CAEXPO เหตุใดจึงต้องขยายขอบเขตงานไปสู่ RCEP? ความเชื่อมั่นเหล่านี้มีที่มาอย่างไร?
ประสิทธิภาพและประสบการณ์การจัดงานแบบ “10+1”
ความตกลง RCEP เป็นความตกลงการค้าเสรีระดับพหุภาคีที่มีกลุ่มประเทศอาเซียนเป็นผู้ริเริ่ม ประเทศสมาชิกครอบคลุมอาเซียน จีน และประเทศอื่นๆ อีก 4 ประเทศ ในด้านหนึ่งการที่ความตกลง RCEP มีผลบังคับใช้ย่อมนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงใหม่ๆในความร่วมมือระหว่างจีนกับอาเซียน การที่งาน CAEXPO ขยายงานออกไปสู่ RCEP จึงถือเป็นการปรับตัวให้เข้ากับความเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ทั้งยังเป็นการตอบสนองต่อพันธกิจของงานฯ ที่มุ่งส่งเสริมความร่วมมือระหว่างจีน-อาเซียน
ขณะที่อีกด้านหนึ่ง ปัจจุบันการบังคับใช้ RCEP ยังคงเผชิญกับความท้าทายบางประการ เช่น จะทำอย่างไรให้ประเทศต่างๆสามารถบังคับใช้กฎระเบียบทางการค้าที่มีมาตรฐานที่สูงขึ้น ตามขีดความสามารถที่แตกต่างกันของแต่ละประเทศ เพื่อบรรลุผลประโยชน์ร่วมกันได้ ซึ่งงาน CAEXPO สามารถเข้ามาเป็นแพลตฟอร์มตัวกลางที่ให้ความช่วยเหลือฝ่ายต่างๆในการรับมือกับความท้าทายตรงนี้ได้ เนื่องจากได้สั่งสมประสบการณ์จากการส่งเสริมเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนมาอยู่ก่อนแล้ว
งาน CAEXPO ถือเป็นงานที่ถือกำเนิดขึ้นพร้อมๆกับเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน และเติบโตเคียงคู่ไปกับเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน มีบทบาทสนับสนุนเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนเป็นอย่างดีมาโดยตลอด ตลอดหลายปีที่ผ่านมา งาน CAEXPO ได้รวบรวมโอกาสทางธุรกิจจากแวดวงธุรกิจต่างๆใน 11 ประเทศ โดยอาศัยจุดเด่นของงานซึ่งมีการผสมผสานกันระหว่างการนำเข้า-ส่งออก การลงทุน-ดึงดูดการลงทุน การค้าสินค้า-การค้าการบริการ และการจัดนิทรรศการ และได้นำผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจการค้าที่เป็นรูปธรรมมาสู่ผู้เข้าร่วมงานทั้งในและนอกภูมิภาคมากมาย
งาน CAEXPO เป็นทั้งงานมหกรรมทางธุรกิจ เวทีแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและเชื่อมสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนกับประเทศอาเซียน ในทุกๆครั้งของการจัดงาน ทั้งในช่วงของพิธีเปิด การจัดงานฟอรั่มระดับสูง กิจกรรมทางศิลปะและการกีฬาต่างๆ เราจะได้เห็นภาพของการปฏิสัมพันธ์กันระหว่างผู้นำระดับสูงจีน-อาเซียน และการแลกเปลี่ยนกันที่ลึกซึ้งขึ้นเรื่อยๆ
หวัง เหลย กล่าวว่า “นับตั้งแต่ที่จีนได้ลงนามจัดตั้งเขตการค้าเสรีกับอาเซียน จากความพยายามมาสิบกว่าปี งาน CAEXPO ของเราได้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ในตอนแรก นั่นคือการเสริมสร้างความเชื่อมั่นทางการเมืองซึ่งกันและกัน และส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างสองฝ่าย” ประสบการณ์ที่งาน CAEXPO มีจากการเสริมสร้างความเชื่อมั่นทางการเมือง ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความร่วมมือด้านเศรษฐกิจการค้าและวัฒนธรรมระหว่างประเทศสมาชิกเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน จะมีส่วนช่วยผลักดันการมีผลบังคับใช้ของ RCEP ได้เป็นอย่างดี
ส่งเสริม RCEP เท่ากับเป็นการส่งเสริม “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”
ร่วมหารือ ร่วมสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ไขว่คว้าความสำเร็จไปพร้อมกับงาน CAEXPO นับตั้งแต่ที่ยุทธศาสตร์ “One Belt One Road” หรือ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ได้รับการเสนอขึ้นมา งาน CAEXPO ได้กำหนดหัวข้อหลักของงานที่เกี่ยวข้องกับการร่วมสร้างเส้นทางสายไหมทางทะเลศตวรรษที่ 21 มาอย่างต่อเนื่อง และได้กำหนดให้การสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” เป็นทิศทางหลักและเป้าหมายที่สำคัญของการยกระดับงาน CAEXPO
เริ่มต้นจากการเปิดตัวโซน “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” เชิญผู้ประกอบการจากประเทศตามแนว “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” มาร่วมออกบูธในงาน มาจนถึงการเพิ่ม “ประเทศรับเชิญพิเศษ” (Special Partner Country) เข้ามาเป็นไฮไลท์ใหม่ของงาน เปิดโอกาสให้ประเทศตามแนว “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ได้มีเวทีแนะนำอัตลักษณ์ประจำชาติ สินค้าและอุตสาหกรรมโดดเด่นของประเทศนั้นๆ ปัจจุบันงาน CAEXPO ไม่ได้เป็นแค่แพลตฟอร์มที่ช่วยผลักดันความร่วมมือระหว่างจีนกับอาเซียนเท่านั้น แต่ยังนำพาโอกาสใหม่ๆ มาสู่ประเทศนอกภูมิภาค โดยเฉพาะประเทศตามแนว “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ด้วย
สิ่งที่น่าสนใจคือ ในงาน CAEXPO ครั้งที่ผ่านๆมาได้มีการเชิญผู้ประกอบการจากประเทศ RCEP เข้าร่วมงานมาแล้ว เช่น ประเทศเกาหลีใต้ที่เคยได้รับเชิญให้เข้าร่วมในฐานะประเทศรับเชิญพิเศษ นอกจากนี้ ในงาน CAEXPO ครั้งที่ 17 ยังได้มีการกำหนดให้ RCEP เป็นหัวข้อหลักของโซน “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” เป็นครั้งแรก โดยมีผู้ประกอบการจากประเทศใน RCEP ทั้งเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และออสเตรเลียมาร่วมออกบูธภายในงาน
ด้วยการส่งเสริมการสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ของงาน CAEXPO นี้เอง จึงทำให้ขอบเขตของงาน CAEXPO ได้ขยายครอบคลุมไปถึง RCEP แล้วเรียบร้อย ซึ่งความพึงพอใจและความเชื่อมั่นที่ผู้ประกอบการจากประเทศเหล่านี้มีต่องาน CAEXPO ถือเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งของงานฯ ในการส่งเสริมความร่วมมือ RCEP ทั้งยังเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นว่างานฯ จะเป็นเวทีที่ช่วยขยายและกระชับความร่วมมือด้านต่างๆระหว่างประเทศสมาชิก RCEP ได้เป็นอย่างดี
ขณะเดียวกัน RCEP เป็นกรอบการค้าเสรีที่มีทั้งขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกด้วยสัดส่วน GDP สูงสุด และขนาดตลาดผู้บริโภคที่ใหญ่ที่สุดด้วยสัดส่วน 30% ของประชากรโลก ช่วยผลักดันการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในภูมิภาค และสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของยุทธศาสตร์ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” เมื่อมองจากมุมนี้ การที่งาน CAEXPO สนับสนุนความตกลง RCEP ในความเป็นจริงแล้วก็เท่ากับเป็นการสนับสนุนการสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ด้วยเช่นกัน
ทุกวันนี้จีนและอาเซียนต่างเห็นพ้องกันว่า การลงนาม RCEP จะกลายเป็นแรงขับเคลื่อนที่ช่วยให้ภาคธุรกิจในจีนและอาเซียนสามารถรับมือกับผลกระทบจากโควิด ช่วยขยายช่องทางตลาดภายในภูมิภาค ขณะเดียวกันก็เป็นโอกาสสำคัญของการยกระดับพัฒนางาน CAEXPO
ตามรายงาน ปีนี้การจัดงาน CAEXPO ครั้งที่ 18 จะมุ่งเน้นไปที่วาระการลงนาม RCEP ส่งเสริมผลักดัน RCEP ผ่านการดำเนินงานรูปแบบต่างๆอย่างเต็มที่ ทั้งการจัดงานฟอรั่มระดับสูง การประชุมระหว่างรัฐมนตรีพาณิชย์และรัฐมนตรีต่างประเทศของกลุ่มประเทศ RCEP ยกระดับบทบาทความสำคัญของงาน CAEXPO ในการเป็นเวทีเชื่อมสัมพันธ์ทางการทูต เชิญชวนผู้ประกอบการจากประเทศ RCEP มาเข้าร่วมงานมากขึ้น วางแผนจัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจการค้าที่มี RCEP เป็นหัวข้อหลัก ผลักดันการดำเนินโครงการและนโยบายต่างๆ เดินหน้าอำนวยความสะดวกให้กับการสร้าง RCEP ไปพร้อมกับการมุ่งขยายขอบเขตของงาน CAEXPO จาก "10+1" ไปสู่ RCEP และ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง"