“หลัวซือเฝิ่น” จากอาหารพื้นบ้านสู่อาหารยอดฮิตชาวเน็ตทั่วประเทศจีน

        “หลัวซือเฝิ่น” คืออาหารพื้นบ้านชนิดหนึ่งในประเทศจีน มีถิ่นกำเนิดจากเมืองหลิ่วโจว กว่างซี ด้วยความที่เป็นอาหารพื้นบ้าน ส่วนประกอบหลักของหลัวซือเฝิ่นจึงทำมาจากวัตถุดิบพื้นเมืองขึ้นชื่อของเมืองหลิ่วโจว นั่นคือ “หอยหลัวซือ”

        “หอยหลัวซือ” มีลักษณะหน้าตาคล้ายหอยขมในประเทศไทย อาศัยอยู่ในแหล่งน้ำจืด เช่น ในนาข้าวหรือในแม่น้ำ ชาวหลิ่วโจวนิยมนำหอยหลัวซือมาต้มกับกระดูกหมูและเครื่องเทศต่างๆ ส่งกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ เกิดเป็นน้ำซุปหลัวซือเฝิ่น ซึ่งเป็นที่มาของชื่อเมนูสุดฮิตนี้เอง

        เอกลักษณ์ของหลัวซือเฝิ่นคือน้ำซุปที่ทำมาจากหอยหลัวซือซึ่งบางคนที่ไม่คุ้นชินอาจจะรู้สึกเหม็นได้ เป็นที่มาของวลี “ได้กลิ่นรู้สึกเหม็น ได้กินรู้สึกหอม” จนถึงขั้นมีคนตั้งฉายาให้หลัวซือเฝิ่นว่า  “ทุเรียนฉบับบะหมี่” (Durian of Soup) เพราะความคล้ายคลึงกันในแง่ความมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง บางคนเมื่อได้ลองก็ชอบมาก แต่บางคนทำอย่างไรก็ไม่สามารถชอบได้จริงๆ

        นอกจากกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์แล้ว ยังมีส่วนประกอบอื่นๆ ที่ทำให้หลายคนติดใจเมนูยอดฮิตจานนี้ ไม่ว่าจะเป็น เส้นบะหมี่ที่ทำมาจากข้าว สัมผัสนุ่มหนึบ เครื่องเคียงสารพัดชนิด เช่น หน่อไม้ดอง ถั่วลิสง ฟองเต้าหู้กรอบ หัวไชเท้าแห้ง เห็ดหูหนูดำ ผักสด ไข่พะโล้ ปีกเป็ด และตีนเป็ด เป็นต้น

        ในอดีต “หลัวซือเฝิ่น” สามารถหาซื้อได้เฉพาะที่เมืองหลิ่วโจวหรือในกว่างซีเท่านั้น ลักษณะร้านหลัวซือเฝิ่นจะเหมือนร้าน Street Foods ทั่วไปในประเทศไทย พบเห็นได้ตามข้างทางทั่วเมืองหลิ่วโจว ลูกค้าจะสั่งและรับประทานในร้านหรือซื้อกลับบ้านเท่านั้น ต่างจากในปัจจุบันที่มีแบบสำเร็จรูป สามารถสั่งซื้อได้ง่ายดายผ่านช่องทางการขายออนไลน์ต่างๆ ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปไกลถึงเมืองหลิ่วโจวอีกต่อไป

        ในปี 2019 ละครโทรทัศน์จีนเรื่องอุ่นไอในใจเธอ Put Your Head on My Shoulder ได้ออกอากาศและประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก กระแสตอบรับดีทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีกระแสตอบรับดีถึงขั้นสามารถจัดแฟนมีทติ้งของพระเอกนางเอกโดยมีแฟนคลับเข้าร่วมถึงหลักพันคนได้ จุดนี้เองที่ทำให้หลัวซือเฝิ่นฮิตเป็นพลุแตก เพราะนางเอกละครเรื่องนี้ชอบหลัวซือเฝิ่นมากนั่นเอง

        นอกจากอิทธิพลจากละครจีนเรื่องอุ่นไอในใจเธอแล้ว นักแสดงดังอย่าง  “จ้าวเหว่ย” นางเอกเรื่ององค์หญิงกำมะลอที่เคยโด่งดังในอดีต ยังออกมาพูดถึงความชื่นชอบที่มีต่อหลัวซือเฝิ่น ทำให้หลัวซือเฝิ่นได้รับความสนใจจากทั้งสื่อและโซเชียลมีเดียต่างๆ อย่างรวดเร็ว ผนวกกับการผลักดันจากภาครัฐของรัฐบาลเมืองหลิ่วโจวและการเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาด E-Commerce ในประเทศจีน ทำให้หลัวซือเฝิ่นกลายเป็นกระแสฮิตไปทั่วประเทศจีนอย่างรวดเร็ว สร้างเม็ดเงินมูลค่ามหาศาลกว่าหมื่นล้านหยวน

        จากกรณีนี้จะเห็นได้ว่าอิทธิพลของ Soft Power ได้พาหลัวซือเฝิ่นเดินทางออกจากเมืองหลิ่วโจวไปสู่โลกกว้างได้อย่างน่าสนใจ จากที่ในอดีตหลัวซือเฝิ่นหลบตัวอยู่แค่ในเมืองหลิ่วโจว ตอนนี้แทบทุกคนในประเทศจีนต่างรู้จักและชื่นชอบหลัวซือเฝิ่นเป็นอย่างมาก เมื่อผนวกรวมกับความพร้อมในด้านต่างๆ ทั้งภาครัฐและภาคอุตสาหกรรม เม็ดเงินจำนวนมหาศาลจึงเดินทางหลั่งไหลเข้าสู่เมืองหลิ่วโจว เกิดเป็นอุตสาหกรรมใหม่ ยกระดับชีวิตผู้คนเมืองหลิ่วโจวได้เป็นจำนวนมาก นับว่าเป็นอีกกรณีความสำเร็จที่น่าสนใจและน่าศึกษาเป็นอย่างมาก หากรัฐบาลไทยให้ความสำคัญเรื่อง Soft Power และผลักดันอย่างถูกวิธี ไม่แน่ว่า ในอนาคต ประเทศไทยอาจมีอุตสาหกรรมเกิดใหม่อย่างเมืองหลิ่วโจวก็เป็นได้

‍

ที่มา:

• เว็บไซต์ karoks.com
• เว็บไซต์ thaibizchina.com (1) , เว็บไซต์ thaibizchina.com (2)
• เว็บไซต์ thestandard.co
• วิกิพีเดีย