ลงนามแล้ว! ฟรีวีซ่าไทย-จีน มีผล 1 มี.ค.67 พำนักได้ถึง 30 วัน
28
January
2024
28
January
2024
เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2567 นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ นายหวัง อี้ สมาชิกกรมการเมือง ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกลางด้านกิจการต่างประเทศประจำพรรคคอมมิวนิสต์จีน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ร่วมลงนามความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราซึ่งกันและกันสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาและหนังสือเดินทางกึ่งราชการ ณ ห้องนราธิป กระทรวงการต่างประเทศ ในโอกาสที่นายหวัง อี้ เยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 26 - 29 มกราคม 2567
ความตกลงฉบับนี้จะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2567 มีสาระสำคัญ ได้แก่ จะยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาของไทย และผู้ถือหนังสือเดินทางกึ่งราชการและหนังสือเดินทางธรรมดาของจีน ในการเดินทางเข้า-ออก หรือผ่านแดนของทั้งสองฝ่าย ซึ่งมีระยะเวลาพำนักแต่ละครั้งไม่เกิน 30 วัน และรวมระยะเวลาไม่เกิน 90 วัน ภายในช่วงเวลา 180 วันใด ๆ ยกเว้นกรณีการพำนักถาวร การทำงาน การศึกษา กิจกรรมด้านสื่อ หรือกิจกรรมอื่น ๆ ที่จำเป็นต้องได้รับการอนุญาตล่วงหน้าจากหน่วยงานที่รับผิดชอบของอีกฝ่ายหนึ่ง
การลงนามความตกลงนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระดับประชาชนของสองประเทศในระยะยาว โดยเฉพาะในการท่องเที่ยว การติดต่อธุรกิจ และการไปหาสู่ระหว่างกัน เพื่อความสัมพันธ์ไทย-จีน ที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นต่อไป นอกจากนี้ นับได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของการฉลองโอกาสครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-จีน ในปี 2568 ด้วย
ทั้งนี้ นายหวัง อี้ เดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของกระทรวงการต่างประเทศ
โดยในวันเดียวกันนี้ ได้เข้าร่วมการประชุมกลไกหารือระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทย - จีน ครั้งที่ 1 ซึ่งเป็นไปตามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงการต่างประเทศแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ลงนามเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2566 ณ กรุงปักกิ่ง ระหว่างการเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี ในการเยือนครั้งนี้นายหวัง อี้ ยังมีกำหนดเข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรีที่ในวันที่ 29 มกราคม 2567 ด้วย
ที่มา กระทรวงการต่างประเทศ