‘อาลีบาบา คลาวด์’ เปิดตัวดาต้าเซ็นเตอร์ในไทย

        อาลีบาบา คลาวด์ (Alibaba Cloud) ธุรกิจด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและหน่วยงานหลักด้านอินเทลลิเจนซ์ของอาลีบาบา กรุ๊ป (Alibaba Group) เปิดตัวดาต้าเซ็นเตอร์แห่งแรกในไทย ซึ่งสอดรับกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีของรัฐบาลไทยในการเสริมสร้างความมั่นคง มั่งคั่ง และความยั่งยืนให้กับประเทศ โดยดาต้าเซ็นเตอร์แห่งนี้ผ่านการรับรองมาตรฐาน ISO27001 และ ISO20000 และเป็นไปตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของไทย รวมถึงกฎระเบียบด้านการเงินที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย

        ไทเลอร์ ชิว ผู้จัดการประจำประเทศไทยของอาลีบาบา คลาวด์ อินเทลลิเจนซ์ กล่าวว่า “ในขณะที่เราขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เรายังคงให้ความสำคัญสูงสุดกับความปลอดภัยและการปกป้องข้อมูล การเปิดตัวดาต้าเซ็นเตอร์แห่งใหม่นี้ เรามุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามกฎและข้อบังคับต่าง ๆ ของประเทศไทย นอกจากนี้ เราต้องการนำเทคโนโลยีที่ดีที่สุดของบริษัทฯ มานำเสนอในประเทศไทย รวมถึงองค์ความรู้เฉพาะทางด้านต่าง ๆ    

        อาลีบาบา คลาวด์ ประสบความสำเร็จในการช่วยสนับสนุนธุรกิจทั่วโลกให้ประสบความสำเร็จอย่างมากมาย และเราหวังว่าบริษัทฯ จะสร้างระบบนิเวศดิจิทัลที่ครบครันเพื่อช่วยผลักดันวิสัยทัศน์ของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางดิจิทัลของอาเซียน”

        สำหรับบริการด้านความปลอดภัยที่อาลีบาบา คลาวด์ นำเสนอให้แก่ลูกค้าในไทย ได้แก่ บริการป้องกันการโจมตีแบบ DDoS, WAF, ศูนย์ความปลอดภัย, การตรวจสอบการดำเนินการ, บริการใบรับรอง SSL และการจัดการการเข้าถึงทรัพยากร ซึ่งบางส่วนได้ถูกใช้งานจริงเพื่อรองรับการดำเนินงานอย่างราบรื่นในช่วง 11.11 ของอาลีบาบา กรุ๊ป หนึ่งในมหกรรมชอปปิงที่ใหญ่ที่สุดในโลกมาแล้ว

        บริการเหล่านี้ จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับแพลตฟอร์ม เพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันเชิงรุก การตรวจจับภัยคุกคาม การตรวจสอบและการตอบสนองต่าง ๆ เช่น การปกป้องซอฟต์แวร์ แอปพลิเคชัน หรือเว็บไซต์จากมัลแวร์ต่างๆ เพื่อลดปัญหาในการดำเนินงาน

        ก่อนหน้านี้ อาลีบาบา คลาวด์ ได้เปิดตัวโปรแกรม Thailand Partner Alliance 100 เมื่อเดือนต.ค.2564 โดยมีพันธมิตรมากกว่า 40 รายในไทยเข้าร่วมโครงการ อาทิ บมจ. โทรคมนาคมแห่งชาติ (NT), สมาคมฟินเทคประเทศไทย, ไฮคลาวด์ (HiCloud), บริษัท ที เอ็ม อี เอส จำกัด (TMES), ทรูไอดีซี (True IDC), ทรู ดิจิทัล อคาเดมี (True Digital Academy), เอสไอเอส (SIS) นอกจากการขายผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของบริษัทฯ แล้ว อาลีบาบา คลาวด์ยังจะทำงานร่วมกับพันธมิตรเพื่อสร้างสรรค์โซลูชันใหม่ ๆ เพื่อสนับสนุนธุรกิจไทยอีกด้วย

        ทั้งนี้ อาลีบาบา คลาวด์ ครองตำแหน่งผู้นำอันดับหนึ่งด้านการให้บริการคลาวด์ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ตามข้อมูลจากไอดีซี และเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่ที่สุด 3 อันดับสูงสุดเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน ตามการจัดอันดับของการ์ทเนอร์  ปัจจุบัน บริษัทฯมีเครือข่ายธุรกิจเปิดให้บริการใน 84 เขตพื้นที่ใน 27 ภูมิภาคทั่วโลก และได้รับการรับรองมาตรฐานด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูลราว 80 รายการทั่วโลก โดยสามารถแก้ไขปัญหาช่องโหว่ของระบบมากกว่า 7.3 ล้านครั้งต่อปี