ไม่ได้มาเล่นๆ ! MIXUE ‘ไอติมจีนเจ้าดัง’ บุกสยาม ตั้งเป้า 3 ปี ขยายไทย 2,000 สาขา

เรื่อง : ดุลยปวีณ กรณฑ์แสง , เรนิตา วงค์ใหญ่

‍

         เปิดตัวสาขาในไทยที่ 'สยามสแควร์' แล้วอย่างเป็นทางการ ‘MIXUE’ (มี่เสวี่ย) หนึ่งในร้านไอศกรีมและชาเจ้าดังและใหญ่สุดในจีน ที่สร้างกระแสฮือฮา “ราคาดีไม่ไหว อร่อยและถูกมาก !”

        ไอศกรีม Soft Serve โคนวาฟเฟิลอันใหญ่ เริ่มต้นแค่ 15 บาท กระตุกหนวดเสือเจ้าตลาดแบรนด์อเมริกันอย่าง 'Dairy Queen'

        นอกจากไอศกรีมแล้ว ยังมีชานมและชาผลไม้อื่นๆ อีกหลากหลายในราคาสุดคุ้ม น้ำเลม่อน แก้วใหญ่มาก ราคาแค่ 20 บาท , ชาพีชใส่เนื้อผลไม้เต็มๆ แก้วละ 45 บาท, ชานมไข่มุกแก้วละ 40 บาท ฯลฯ

‍

        ก่อนหน้าที่จะเข้ามาเปิดตัวสาขาที่สยาม ‘MIXUE’ (มี่เสวี่ย) ได้เข้ามาอุ่นเครื่องทำตลาดในไทยตั้งแต่เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว โดยเข้ามาตั้งบริษัทลูกในไทย “บริษัท มี่เสวี่ย (ประเทศไทย) จำกัด” ลงทุนเปิดสาขาแรกตรงข้ามมหาวิทยาลัยรามคำแหง แถวซอยรามคำแหง 53 และใช้กลยุทธ์เน้นขยายสาขาตามทำเลมหาวิทยาลัยต่างๆ อาทิ ม.หอการค้าไทย,ม.ธุรกิจบัณฑิต, ม.กรุงเทพฯ, ม.ธรรมศาสตร์, ม.เกษตร, ม.มหิดล ฯลฯ  สร้างการรับรู้แบรนด์ในหมู่วัยรุ่นนักศึกษา ‍

        เฉิน เสี่ยวเผิง หัวหน้าฝ่ายธุรกิจแฟรนไชส์ บริษัท มี่เสวี่ย(ประเทศไทย) จำกัด เล่าถึงเหตุผลของการตัดสินใจเข้ามาลงทุนของบริษัทแม่ในประเทศไทยว่า มาจากมิตรภาพไทยจีนที่ลึกซึ้ง สภาพแวดล้อมการลงทุนที่ดี และสภาพภูมิอากาศเมืองร้อนของไทย ซึ่งเหมาะกับการขายสินค้าหลักของทางร้านอย่างไอศกรีมและเครื่องดื่มชา

‍

        ด้วยความโดดเด่นของ MIXUE ที่มีระบบซัพพลายเชนที่แข็งแกร่ง ทำให้มีความได้เปรียบในการบริหารต้นทุน ราคาและคุณภาพของสินค้า การเข้าสู่ตลาดประเทศไทยของ MIXUE ยังคงวางโพสิชั่นอยู่ในแนวทาง“สินค้าคุณภาพในราคาย่อมเยา” โดยราคาจำหน่ายอยู่ที่ 15 - 50 บาท

        " มี่เสวี่ยได้นำร่องทดลองเปิดสาขาแรกที่รามคำแหงซอย 53 เมื่อเดือนก.ย.ปีที่แล้ว และเลือกขยายสาขาในทำเลที่อยู่ในย่านชุมชน ซึ่งสินค้าของทางร้านได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้าชาวไทยไม่ว่าจะเป็น ไอศกรีม น้ำเลม่อน สตรอร์เบอร์รี่ซันเดย์ ชานมไข่มุกบราวน์ชูการ์ และชาPeach Four Seasons Springs ซึ่งล้วนแต่มียอดขายที่สูง”

ปัจจุบัน MIXUE มีสาขาในจีนมากกว่า 25,000 แห่ง และมีสาขาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกกว่า 3,000 แห่ง เรามั่นใจว่าจะสามารถชนะใจผู้บริโภคชาวไทยได้ด้วยความโดดเด่นของสินค้าและบริการ

‍

‍

ตั้งเป้าขยาย2,000 สาขาภายใน 3 ปี

พร้อมจัดตั้งคลังสินค้าและโรงงานผลไม้ในไทย

‍

        ปัจจุบัน (ณ เดือน พ.ค.2566) MIXUE มีสาขาที่ทำสัญญาในไทยแล้ว 21 แห่ง โดยได้เริ่มเปิดให้บริการแล้ว 14 แห่ง สาขาล่าสุดคือ 'สยามสแควร์' ที่เพิ่งตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 26 พ.ค.

        “แผนของเราจะมุ่งขยายธุรกิจในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นศูนย์กลางก่อน แล้วค่อยขยายไปยังต่างจังหวัด โดยตั้งเป้าจะขยายแฟรนไชส์ในไทย 2,000 สาขาภายใน 3 ปี และเปิดรับสมัครงานมากกว่า 10,000 ตำแหน่งในไทย

        พร้อมกันนี้ MIXUE ยังมุ่งมั่นที่จะจัดหาวัตถุดิบทั้งชาและผลไม้ในท้องถิ่นจากไทย เพื่อสนับสนุนการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมการเกษตร และในอนาคตยังมีแผนที่จะสร้างคลังสินค้าและโรงงานแปรรูปผลไม้ในประเทศไทย เพื่อนำผลไม้ที่มีคุณภาพสูงของไทยไปใช้เป็นวัตุถดิบในร้าน MIXUE ทั่วโลก ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมทั้งต้นน้ำและปลายน้ำ ก่อให้เกิดการจ้างงานที่เกี่ยวข้องอีกกว่า 50,000 ตำแหน่ง” ผู้บริหาร  มี่เสวี่ย ประเทศไทย ระบุ

‍

‍

เปิดเส้นทาง MIXUE

ธุรกิจร้านไอศครีมและชาจีนเจ้าดังมูลค่าแสนล้าน  

‍

        MIXUE (มี่เสวี่ย) เป็นแฟรนไชส์ไอศกรีมและชาสัญชาติจีนที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วแซงหน้าคู่แข่ง และกลายเป็นแบรนด์ที่มีสาขามากที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ของจีน ด้วยจำนวนสาขากว่า 25,000 แห่ง โดยมีสินค้ายอดนิยมอย่างไอศกรีมวาฟเฟิล น้ำเลม่อน ชาผลไม้ และชานม

        ธุรกิจของ MIXUE เริ่มต้นก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1997 โดย ‘จาง หงเชา’ ที่เมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน ซึ่งมองเห็นโอกาสในการเริ่มต้นธุรกิจร้านน้ำแข็งไส ในขณะยังเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยปี 4  โดยเริ่มเปิดร้านครั้งแรกหลังเรียนจบ ด้วยเงินทุนตั้งต้นเพียง 4,000 หยวน (ราว 2 หมื่นบาท) ที่มีย่าของเขาเป็นผู้ให้การสนับสนุน สินค้าหลักๆ ในร้าน ได้แก่ น้ำแข็งไส ไอศกรีม และสมูทตี้ ก่อนจะขยายมาขายพวกเมนูชานม

        ต่อมาจึงได้ใช้ชื่อร้านว่า MIXUE BINGCHENG (蜜雪冰城) อ่านว่า “มี่เสวี่ยปิงเฉิง” มีความหมายแปลเป็นภาษาไทยว่า “ปราสาทน้ำแข็งที่สร้างด้วยหิมะแสนหวาน”

        ธุรกิจของ MIXUE เดินมาถึงจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในปีค.ศ.2006 จากการเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจไอศกรีม Soft Serve เจ้าแรกๆ ในจีน สร้างกระแสฮือฮาทันทีที่เปิดตัว ด้วยการขายไอศกรีมในราคา 2 หยวน ซึ่งนับว่าถูกมาก เมื่อเทียบกับเจ้าอื่นๆ ในตลาดที่ขายกันอยู่ที่10 หยวน จนสามารถทำยอดขายได้อย่างถล่มทลาย และขยาย แฟรนไชส์ไปอย่างรวดเร็ว

‍

‍‍

        "นำผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง และราคาย่อมเยามาสู่ทุกคนทั่วโลก" เป็นเป้าหมายที่ MIXUE ยึดมั่น และเป็นที่มาของการพัฒนาระบบบริหารซัพพลายเชนของตัวเองจนกลายเป็นจุดแข็งที่ทำให้สามารถควบคุมบริหารต้นทุน และคุณภาพสินค้า

        ไม่ว่าจะเป็นการมีศูนย์วิจัยและพัฒนา(R&D) ที่ทันสมัย, มีโรงงานที่เป็น “ครัวกลาง”ในการแปรรูปจัดเตรียมวัตถุดิบ นอกจากนี้ยังมีคลังสินค้าและศูนย์โลจิสติกส์ของตัวเอง ทำให้เป็นแฟรนไชส์เครื่องดื่มแบรนด์แรกๆ ในจีนที่มีบริการขนส่งวัตถุดิบให้กับร้านค้าโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย อีกทั้งยังมีการเชื่อมโยงการจัดซื้อวัตถุดิบจากพื้นที่และโรงงานที่เป็นแหล่งผลิตโดยตรง ทำให้มีแต้มต่อด้านต้นทุนวัตถุดิบที่มีราคาถูกกว่าคู่แข่งถึง 20%

‍

‍

        ด้วยราคาย่อมเยา มีสาขาเยอะ เข้าถึงได้ง่าย ทำให้ MIXUE สามารถครองใจลูกค้า โดยมีการทำการตลาดเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะวัยรุ่น ด้วยภาพลักษณ์แบรนด์ที่ทันสมัย ทั้งการเปิดตัวโลโก้ “Snow King” ที่เป็นตุ๊กตาสโนว์แมนหน้าตาบ้องแบ๊วสวมมงกุฎ จนกลายเป็นสัญลักษณ์ประจำร้าน

        นอกจากนี้ ยังมีการใช้กลยุทธ์เพลงโฆษณาฮิตติดหู จนเนื้อร้องวลี “ni ai wo, wo ai ni, Mixue Bingcheng tian mimi" ดังวนอยู่ในหัวลูกค้าหลายๆคน สร้างการจดจำแบรนด์ MIXUE ได้เป็นอย่างดี

‍

‍

        จากตัวเลขประมาณการเมื่อปี ค.ศ. 2021 'MIXUE' กลายเป็นแบรนด์ธุรกิจแฟรนไชส์ไอศกรีมและเครื่องดื่มชาที่มูลค่าสูงถึง 2 หมื่นล้านหยวน (ราว 1 แสนล้านบาท) แซงหน้าชานมไข่มุกระดับพรีเมียมอย่าง Nayuki's Tea และ Hey Tea นอกจากนี้ ยังทำรายได้สูงถึง10,351 ล้านหยวน (ราว 5 หมื่นล้านบาท) ในปี ค.ศ. 2021 โดยรายได้หลักกว่า 95% มาจากการขายสินค้าให้กับร้านค้าแฟรนไชส์

‍

        หลังจากประสบความสำเร็จในจีน MIXUE ได้รุกขยายสาขาร้านไอศครีมและชาไปยังต่างประเทศ โดยเปิดสาขาแรกในเวียดนามในปี ค.ศ. 2018 ตามมาด้วยประเทศอื่นๆในอาเซียน อาทิ อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ รวมถึงประเทศไทย  นอกจากนี้ ยังรุกขยายสาขาไปเปิดในประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และออสเตรเลีย

        ด้วยจำนวนสาขาที่ขยายอย่างรวดเร็วทั้งในจีนและต่างประเทศ ทำให้ MIXUE ผงาดขึ้นมาเป็นเชนร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดที่มีสาขามากที่สุดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก รองจาก Mcdonald, Subway, Starbucks และ KFC ... นับเป็นแบรนด์ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มสัญชาติจีนที่กำลังเติบโตอย่างน่าจับตาที่สุดในเวลานี้  

‍

‍

อ้างอิงข้อมูล
‍https://www.foodtalks.cn/news/16045  
https://www.economist.com/asia/2023/04/13/chinese-bubble-tea-chains-go-viral-in-south-east-asia
https://nextshark.com/bubble-tea-brand-china
http://www.xinhuanet.com/money/20221212/7c1c0e48312a41e09b092d5136081feb/c.html