‘ไทย-จีน’ จับมือขยายด่านนำเข้า-ส่งออกผลไม้เพิ่ม 16 ด่าน
12
January
2022
13
September
2021
ถือเป็นข่าวดีสำหรับการส่งออกผลไม้ของไทยที่จะมีทางเลือกในการขนส่งสินค้าสู่ตลาดจีนมากขึ้นภายหลังจากไทยและจีนได้ร่วมกันลงนามในพิธีสารฉบับใหม่ว่าด้วยข้อกำหนดในการกักกันโรคและตรวจสอบสำหรับการส่งออกและนำเข้าผลไม้ผ่านประเทศที่สามโดย ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นผู้ลงนามร่วมกับ หวัง ลิ่งจวิ้น (Wang Lingjun) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการศุลกากรของจีน ผ่านระบบออนไลน์ เมื่อวันที่ 13ก.ย.ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีการขยายด่านนำเข้า – ส่งออกผลไม้ไทย-จีน ผ่านประเทศที่สามรวมเป็น 16 ด่าน เปิดโอกาสผลไม้ไทยสู่แดนมังกรมากขึ้น
เปิดด่านเพิ่ม แก้ปัญหาส่งออกผลไม้ไทยไปจีน
ที่ผ่านมาไทยและจีนได้มีการลงนามพิธีสารเกี่ยวการส่งออกและนำเข้าผลไม้ทางบกผ่านประเทศที่สาม ครอบคลุมผลไม้จากไทย 22 ชนิด ทั้งหมด 2 ฉบับ ได้แก่ เส้นทาง R9 (มุกดาหาร, นครพนม – โหย่วอี้กวน)ซึ่งลงนามเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.2552 และเส้นทาง R3A (เชียงของ-โม่ฮาน) ลงนามเมื่อวันที่ 21 เม.ย.2554
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเส้นทาง R9 และ R3A ได้ขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็วจึงเกิดปัญหาการจราจรติดขัด บริเวณหน้าด่านนำเข้าของจีน โดยเฉพาะด่านโหย่วอี้กวนซึ่งส่งผลให้รถขนส่งสินค้าติดอยู่ที่ชายแดนจีนเป็นเวลานานทำให้สินค้าผลไม้สดโดยเฉพาะทุเรียนไทยที่ส่งไปจีนนั้นเสียหาย
กระทรวงเกษตรฯจึงได้หารือแนวทางการแก้ไขปัญหากับจีนเมื่อเดือนพ.ย.2562 จนในที่สุดได้นำมาสู่การลงนามในพิธีสารฉบับใหม่ครั้งนี้ ซึ่งจะส่งผลให้มีการเปิดด่านนำเข้าของจีนเพื่อเปิดรับผลไม้จากไทยขยายเพิ่มเป็น10ด่าน ประกอบด้วย 4 ด่านเดิม (โหย่วอี้กวน โม่ฮาน ตงซิง ด่านรถไฟผิงเสียง) และ 6ด่านที่จะเปิดใหม่ ได้แก่ (1) ด่านหลงปัง (เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง) (2)ด่านรถไฟโม่ฮาน (มณฑลยูนนาน) (3) ด่านสุยโข่ว (เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง)(4) ด่านเหอโข่ว (มณฑลยูนนาน) (5) ด่านรถไฟเหอโข่ว (มณฑลยูนนาน) และ (6)ด่านเทียนป่าว (มณฑลยูนนาน)
ขณะที่ด่านนำเข้าของไทยที่เปิดรับสินค้าเกษตรจากจีนจะขยายเพิ่มเป็น6ด่าน ประกอบด้วย 5 ด่านเดิม (เชียงของมุกดาหาร นครพนม บ้านผักกาด บึงกาฬ) และ 1 ด่านที่จะเปิดใหม่ได้แก่ หนองคาย
การลงนามในพิธีสารดังกล่าวยังนับเป็นการเตรียมความพร้อมเบื้องต้นเพื่อรองรับการขนส่งระบบรางเชื่อม4ประเทศ (ไทย-ลาว-เวียดนาม-จีน) ในอนาคต ภายหลังจากโครงการรถไฟจีน-ลาว ก่อสร้างแล้วเสร็จและมีกำหนดจะเปิดให้บริการในเดือนธ.ค.นี้ซึ่งด่านรถไฟโม่ฮาน ด่านรถไฟเหอโข่ว และด่านรถไฟผิงเสียง จะอยู่ในแนวเส้นทางรถไฟที่เชื่อมระหว่างจีนและลาวโดยหลังจากนี้ ไทยต้องเดินหน้าเจรจาเพื่อทำพิธีสารกับลาว และเวียดนามต่อไป
พิศาล พงศาพิชณ์เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ กล่าวว่าประโยชน์ที่ไทยจะได้รับจากการลงนามพิธีสารครั้งนี้นอกจากจะทำให้มีด่านส่งออกและนำเข้าผลไม้ทั้งจากไทยและจีนมากขึ้นแล้วผู้ประกอบการไทยยังมีทางเลือกในการใช้เส้นทางขนส่งเพิ่มขึ้นสามารถเลือกใช้เส้นทางที่สะดวกและเหมาะสม ลดต้นทุน การขนส่งสินค้าเกษตรโดยเฉพาะผลไม้ไทยเป็นผลไม้เมืองร้อน มีอายุการเก็บรักษาสั้น ดังนั้นการขยายด่านขนส่งจึงเป็นผลดีต่อสินค้าเกษตร ให้สามารถกระจายไปยังมณฑลต่างๆของจีนได้อย่างทั่วถึงในระยะอันสั้น และจัดส่งได้รวดเร็วกว่าการขนส่งทางเรือ
สำหรับแชมป์ผลไม้ส่งออกของไทย 3อันดับแรก ยังคงเป็นทุเรียน มังคุด และ ลำไย ซึ่งจากข้อมูลการส่งออกผลไม้ไทยไปจีน (เฉพาะที่มีใบรับรองสุขอนามัยพืช)โดยผ่านเส้นทาง R9 (มุกดาหาร, นครพนม – โหย่วอี้กวน) และ R3A (เชียงของ-โม่ฮาน) พบว่า 3 ปีที่ผ่านมา ไทยมีปริมาณส่งออกเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ13 ต่อปี และมูลค่าเพิ่มขึ้นเฉลี่ยถึงร้อยละ 50 ต่อปี โดยปี 2561 มีการส่งออกผลไม้ผ่านเส้นทาง R9 และ R3A ปริมาณรวม 421,657 ตัน คิดเป็นมูลค่า 17,857 ล้านบาท และในปี 2564 ช่วงระยะเวลา 8 เดือน (ม.ค. – 7 ก.ย. 2564) มีการส่งออกปริมาณ 691,653 ตัน มูลค่า 66,370 ล้านบาท