ประธาน'หอการค้าไทย-จีน'มั่นใจกรณีปราบปรามทุนจีนสีเทา ไม่กระทบการลงทุนจากจีนในไทย

        เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานกรรมการ หอการค้าไทย-จีน เปิดเผยถึงกรณีกระแสข่าวการปราบปรามทุนจีนสีเทาในไทย  โดยระบุว่า ปัญหาทุนจีนสีเทาที่เกิดขึ้นเป็นเพียงคนส่วนน้อยที่เข้ามาทำธุรกิจแบบฉาบฉวย  ไม่ใช่การลงทุนในภาคอุตสาหกรรม ที่เป็นนักธุรกิจจีนส่วนใหญ่ซึ่งเข้ามาลงทุนทำธุรกิจในไทยอย่างแท้จริง

        ทุกประเทศมีทั้งคนดีและไม่ดีจึงอยากให้มองอย่างแยกแยะ เพื่อไม่ให้บั่นทอนกำลังใจของนักธุรกิจจีนที่ทำธุรกิจในไทยอย่างถูกต้อง

        อย่างไรก็ตามกรณีที่เกิดขึ้น เชื่อว่าจะไม่กระทบต่อการลงทุนโดยตรงจากนักลงทุนจีนที่เข้ามาทำธุรกิจในไทย อีกทั้งยังคาดว่าหากจีนเปิดประเทศเมื่อไหร่  จะยิ่งมีนักลงทุนจีนเข้ามาลงทุนมากขึ้น  โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้ารวมถึงอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป และยางพารา

        ขณะที่ล่าสุดจากผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย-จีน ไตรมาส 1/2566 ร้อยละ 56.9 ของผู้ให้ข้อมูล ซึ่งเป็นนักธุรกิจในแวดวงไทย-จีน  เครือข่ายสมาพันธ์หอการค้าไทย-จีนและสมาคมธุรกิจต่างๆกว่า 72 สมาคม คาดว่าการลงทุนจากจีนมาไทยจะเพิ่มขึ้น สาเหตุอาจจะเป็นเพราะการย้ายฐานการผลิตออกจากจีนที่เริ่มมีอย่างต่อเนื่องมายังประเทศสมาชิกอาเซียน

เนื่องจากปัญหาความท้าทายจากภูมิรัฐศาสตร์โลกสงครามการค้า รวมถึงความตกลง RCEP

        “ทุนจีนสีเทาที่มีปัญหา สามารถเช็คได้เลยว่าไม่ใช่กลุ่มที่เข้ามาลงทุนในด้านอุตสาหกรรม แต่เป็นการเข้ามาลงทุนแบบฉาบฉวย ซึ่งส่วนมากมาจากกัมพูชาและประเทศอื่นไม่ได้มาจากนักธุรกิจที่อยู่ในประเทศจีนโดยตรง”

         ประธานฯณรงค์ศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ‘หอการค้าไทย-จีน’ เป็นองค์กรที่ก่อตั้งมากว่า 112 ปี เรามีการตรวจสอบนักธุรกิจที่จะเข้ามาเป็นสมาชิกและกรรมการอย่างเข้มงวด โดยต้องมีทะเบียนบ้านมีที่พำนักอยู่ในประเทศไทย หรือต้องมีกิจการ มีบริษัทในไทยที่มีหลักแหล่งเข้ามาทำธุรกิจอย่างถูกต้องตามกฎหมาย  หากพบว่ากรรมการคนใดทำผิดกฎหมายไทยเราพร้อมดำเนินการเด็ดขาดปลดออกทันที

        “ ผมเห็นด้วยกับการปราบปรามผู้ที่กระทำผิดกฎหมายซึ่งหอการค้าไทย-จีน ยินดีให้ความร่วมมือกับภาครัฐอย่างเต็มที่” ประธานฯหอการค้าไทย-จีน กล่าวย้ำ

‍