'ศ.นพ.ยง' เปิด 5 เหตุผล ทำไม? รับนักท่องเที่ยวจีน ไม่ได้น่ากลัวกว่าชาติอื่น
7
May
2024
6
January
2023
สบายใจได้ ! หมอยง เปิด 5 เหตุผล ทำไมรับนักท่องเที่ยวจีน ไม่ได้น่ากลัวกว่าชาติอื่น เนื่องจากสายพันธุ์โควิดที่ระบาดในจีนเคยระบาดในไทยแล้ว ต่างจากสหรัฐฯ-ยุโรป ที่น่ากลัวกว่า เพราะเป็นสายพันธุ์ BQ ซึ่งยังไม่เคยระบาดในไทย
6 ม.ค. 2566 ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า การรับนักท่องเที่ยวต่างชาติชาวจีน ไม่ได้น่ากลัวไปกว่ายุโรปและอเมริกา ด้วยเหตุผลดังนี้
ข้อ 1.
สายพันธุ์ที่ระบาดในไทยขณะนี้ เป็น โอมิครอน BA.2.75 ในระยะ 1 ปีที่ผ่านมาในช่วงโอมิครอน ประชากรไทยติดเชื้อไปแล้วประมาณ 70% หรือประมาณ 50 ล้านคน และการระบาดสายพันธุ์ในประเทศไทยเริ่มต้นตั้งแต่BA.1 BA.2 แล้วเป็น BA.4- BA.5 ซึ่งสายพันธุ์BA.5 ได้ระบาดผ่านพ้นไปแล้วและขณะนี้เป็น BA.2.75
ขณะเดียวกันในยุโรปและอเมริกาสายพันธุ์ต่าง ๆ เกิดก่อนประเทศไทยและระบาดเข้าสู่ประเทศไทย สายพันธุ์BA.2.75 ระบาดในยุโรปและอเมริกาเมื่อหลายเดือนก่อน ผ่านพ้นไปแล้ว ขณะนี้ในยุโรปและอเมริกาได้เปลี่ยนเป็น เป็น BQ1และ BQ1.1
แต่ขณะเดียวกันในจีนขณะนี้ยังเป็นสายพันธุ์ในกลุ่ม BA.5 ตามหลังประเทศไทย ถ้านักท่องเที่ยวจีนเข้ามาสู่ประเทศไทยนำเชื้อโควิด19 เข้ามา จะเป็นสายพันธุ์ที่เคยระบาดผ่านไปแล้วในประเทศไทย
ตรงกันข้ามกับยุโรปและอเมริกาจะเป็นสายพันธุ์ที่ยังไม่เคยระบาดในประเทศไทย
เรื่องของสายพันธุ์ในปัจจุบันนี้ ถ้ามาจากประเทศจีน จึงไม่น่าวิตกแต่อย่างใด เพราะของเราผ่านพ้นไปแล้ว
ถ้าจะกลัวจากนักท่องเที่ยวต่างชาติสายพันธุ์ที่ยังไม่มีในประเทศไทย โดยเฉพาะ BQ ที่จะมาจากประเทศทางตะวันตกยังน่ากลัวกว่า เราก็ไม่ได้ตรวจและไม่สามารถบังคับให้ใส่หน้ากากอนามัยได้ด้วย
ข้อ 2.
การเกิดสายพันธุ์ใหม่ สามารถเกิดขึ้นที่ไหนก็ได้ทุกแห่งในโลกนี้ ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น เกาหลี จีน หรือทางตะวันตก แม้กระทั่งในอินเดีย แอฟริกา ก็เกิดได้ทั้งนั้น
แต่ทั่วโลกขณะนี้ มีระบบการเฝ้าระวังด้วยการถอดรหัสพันธุกรรม เข้าธนาคารกลางและทุกประเทศได้เรียนรู้ร่วมกัน ทำไมเราจึงต้องถอดรหัสพันธุกรรมอยู่ทุกวัน ห้องปฏิบัติการผมก็ทำอยู่ทุกวัน เป็นการเฝ้าระวังสายพันธุ์ใหม่ เมื่อยังไม่รู้ว่าสายพันธุ์ใหม่ จะเกิดที่ประเทศใดก็ไม่รู้จะไปป้องกันปิดกั้นชาติใด เพราะการป้องกันประเทศจีนประเทศเดียว ไม่ใช่เป็นวิธีการแก้ปัญหาอาจจะมาจากประเทศใดก็ได้
ข้อ 3.
ที่ศูนย์ผมทำการศึกษาประชากรไทยติดเชื้อไปแล้ว 70 % หรือประมาณ 50 ล้านคน แต่ถ้าตรวจภูมิต้านทานต่อเปลือกนอกไวรัสจะพบว่าร้อยละ 96 ของประชากรไทย มีภูมิต้านทานรับรู้แล้ว เกิดจากการฉีดวัคซีน และ/หรือการติดเชื้อร่วมด้วย
ถ้าใครไม่ได้ฉีดวัคซีนโดยเฉพาะกลุ่มเด็กเล็กธรรมชาติก็ฉีดให้ ด้วยการติดเชื้อไปแล้ว ในเด็กติดเชื้อแบบไม่มีอาการจะพบได้ถึง 1 ใน 3 ภูมิคุ้มกันที่เกิดจากการติดเชื้อส่วนใหญ่เกิดขึ้นในปีนี้เป็นภูมิต้านทานที่เกิดจากสายพันธุ์โอมิครอน ดีกว่าวัคซีนทุกชนิดเพราะตรงกับสายพันธุ์ที่กำลังระบาดอยู่ขณะนี้
ข้อ 4.
การระบาดของประเทศไทยกำลังอยู่ในขาลงตามฤดูกาล เมื่อเข้าสู่ฤดูร้อนจะพบโรคนี้รวมทั้งโรคทางเดินหายใจน้อยมาก หรือโรค covid-19 จะสงบลง และจะไประบาดเพิ่มขึ้นในเดือนมิ.ย. ตามฤดูกาลอีกครั้งหนึ่ง เป็นวงจรต่อไป
ข้อ 5.
การให้วัคซีนต่อไปในอนาคต ก็คงจะเน้นเป็นวัคซีนประจำปีโดยเฉพาะจะให้ก่อนที่มีการระบาดในฤดูฝน เช่นเดียวกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่มีการรณรงค์ให้ในกลุ่มเสี่ยงสูง เพื่อลดอัตราการเสียชีวิตและป่วยรุนแรง ผู้ที่มีภูมิเป็นบางส่วนหรือเคยติดเชื้อมาแล้ว เมื่อติดเชื้อซ้ำความรุนแรงของโรคก็จะลดลง
ทุกอย่างจะเข้าสู่วงจรปกติที่เป็นโรคตามฤดูกาล ชีวิตต้องเดินหน้าด้วยระเบียบวินัย และการปฏิบัติตน ในการดูแลสุขอนามัยให้แข็งแรงและป้องกันการติดเชื้อและการแพร่เชื้อ
____________________________________________________________
ที่มา : เฟซบุ๊กYong Poovorawan