‘ทุเรียนไทย’ยืนหนึ่งตลาดจีน ทำนิวไฮส่งออกทะลุแสนล้าน ภายใน 120 วัน ครองส่วนแบ่ง 90% บรรลุเป้าหมายนโยบาย ‘ขายน้อยได้มาก’

        วันนี้ (17 พ.ค. 2566) นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอบคุณความร่วมมือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งผลยอดการส่งออกทุเรียนไทยไปจีน ในช่วงฤดูกาลผลไม้ภาคตะวันออก 2566 รวมมูลค่ากว่าแสนล้านบาท

       จากสถิติการส่งออกทุเรียนในฤดูกาลผลไม้ภาคตะวันออก ปี 2566 ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 2566 จนถึงต้นเดือนพ.ค. 2566 ไทยส่งออกทุเรียนสดไปจีนทั้งสิ้น 25,000 ตู้คอนเทนเนอร์ มีน้ำหนัก 4.5 แสนตัน สร้างมูลค่าการส่งออกกว่าแสนล้านบาท จากการใช้เส้นทางการส่งออก ทั้งทางบก ทางเรือ ทางอากาศ รวมทั้งเส้นทางขนส่งทางรถไฟ

        โดยผลการดำเนินการส่งออกเกินเป้าหมายทำยอดสูงสุดเกินกว่าที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตั้งเป้าไว้ อีกทั้งทุเรียนไทยยังสามารถครองสัดส่วนตลาดในจีนได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดกว่า 90%

        และกระทรวงเกษตรฯ มั่นใจว่าปี 2566 จะสามารถส่งออกผลไม้เศรษฐกิจ ทั้งทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกอง มะม่วง มะพร้าว ฯลฯ ได้ตามเป้าหมาย คือ 4.44 ล้านตัน สร้างเงินให้ประเทศและเกษตรกรกว่า 2 แสนล้านบาท

‍

‍

บรรลุเป้าหมายนโยบาย‘ขายน้อยได้มาก’

        จากการเปิดเผยของนายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board ) นอกจากการส่งออกทุเรียนไปจีนปีนี้ จะเกินเป้าหมายทำนิวไฮทะลุแสนล้านบาทภายใน 120วันแล้ว ยังสามารถบรรลุเป้าหมายนโยบาย”ขายน้อยได้มาก” นั่นคือ การเพิ่มราคาเพิ่มมูลค่าทุเรียนไทยได้สำเร็จ

        โดยเมื่อเทียบกับในปี 2564 ไทยส่งออกทุเรียนไปจีนกว่า 8 แสนตัน ทำเงินเข้าประเทศทะลุ 1 แสนล้านบาท เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

        แต่ปีนี้เราสามารถส่งออกทุเรียนทำเงินทะลุแสนล้าน ภายใน120 วันเท่านั้น โดยส่งออกในปริมาณ 4.5 แสนตัน แต่ได้เงิน 1 แสนล้าน ซึ่งเป็นผลมาจากการบริหารจัดการผลไม้เชิงรุกล่วงหน้าแนวใหม่ของ Fruit Board ที่กระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงพาณิชย์ จับมือทำงานร่วมกัน ภายใต้ยุทธศาสตร์”ตลาดนำการผลิต เกษตรผลิต-พาณิชย์ตลาด” โดยบูรณาการการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกษตรกร ล้ง สมาคมผู้ค้าและส่งออกผลไม้ไทย สมาคมผู้ส่งออกทุเรียนสมาคมการค้าผลไม้ยุคใหม่ (MAFTA)สมาคมการค้าธุรกิจเกษตรไทย-จีนสมาคมทุเรียนไทย (TDA)

         โดยเฉพาะนโยบายการรักษามาตรฐานคุณภาพการผลิตการแปรรูป การส่งออกผลไม้ตามมาตรฐาน GAP GMP และ Covid Free รวมทั้งการป้องกันและปราบปรามไม่ให้มีทุเรียนอ่อนทุเรียนสวมสิทธิ์เป็นอันขาด เพื่อสร้างความเขื่อมั่นให้ผลไม้ไทย รวมถึงนโยบายการสร้างแบรนด์เพิ่มมูลค่า นโยบายการพัฒนาโลจิสติกส์ เช่น รถไฟจีน-ลาว เป็นต้น

‍