‘รพ.เวิลด์เมดิคอล’ จับมือ ‘ลาวิดา’ ให้บริการสุขภาพระดับไฮเอนด์ เจาะกลุ่มลูกค้าชาวจีน

        ก้าวใหม่ของการผนึกกำลังความแข็งแกร่งเพื่อส่งมอบบริการสุขภาพระดับไฮเอนด์ของไทยให้กับลูกค้าชาวจีน เมื่อโรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล กับ บริษัท ลาวิดา แอดวานซ์ เฟอร์ติลิตี้ แอนด์เจเนติกส์ เซ็นเตอร์ จำกัด ได้จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อร่วมมือระหว่างกันทางการแพทย์ในการให้บริการลูกค้าจากประเทศจีน เมื่อวันที่ 23 มี.ค. 2566 ณ โรงพยาบาลเวิลด์มิคอล ย่านแจ้งวัฒนะ

        โดยได้รับเกียรติจาก ศ.ดร.นพ.เฉลิม หาญพาณิชย์ ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน), คุณกรพจน์ อัศวินวิจิตร ที่ปรึกษาอาวุโส บริษัท ลาวิดา แอดวานซ์ เฟอร์ติลิตี้ แอนด์เจเนติกส์ เซ็นเตอร์ จำกัด, คุณเทพรักษ์ เหลืองสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นามยง เทอร์มินัล จำกัด (มหาชน) และที่ปรึกษาอาวุโสบริษัทฯ ลาวิดา พร้อมด้วย ศ.นพ.อดิศร ภัทราดูลย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล ให้เกียรติเข้าร่วมงาน

‍

‍

        ศ.ดร.นพ.เฉลิม หาญพาณิชย์ ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด(มหาชน) หรือ BCH  ผู้ดำเนินธุรกิจโรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล กล่าวว่า รพ.เวิลด์เมดิคอล เป็นศูนย์บริการทางการแพทย์ครบวงจรในระดับพรีเมียม ซึ่งผ่านการรับรองมาตรฐานสากลของ JCI (Joint Commission International ) โดยตลอด 10 ปีที่เปิดดำเนินการได้รับความไว้วางใจจากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะลูกค้ากลุ่มประเทศตะวันออกกลาง

        หวังเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือกับลาวิดาในครั้งนี้ จะสร้างโอกาสร่วมกันในการรองรับกลุ่มลูกค้าจากประเทศจีน ซึ่งเคยเข้ามาใช้บริการด้านการดูแลสุขภาพและเวชศาสตร์ชะลอวัย( Wellness & Anti-Aging) ในช่วงก่อนโควิด โดยกลุ่มลูกค้าชาวจีนถือเป็นกลุ่มลูกค้าที่ทางกลุ่ม BCH มีความคุ้นเคยดีอยู่แล้ว ทำให้มั่นใจว่า ด้วยศักยภาพความพร้อมของรพ.เวิลด์เมดิคอล จะสามารถให้บริการตอบสนองลูกค้าชาวจีนได้เป็นอย่างดี

‍

        คุณกรพจน์ อัศวินวิจิตร ที่ปรึกษาอาวุโส บริษัท ลาวิดา แอดวานซ์ เฟอร์ติลิตี้ แอนด์ เจเนติกส์ เซ็นเตอร์ จำกัด ได้กล่าวขอบคุณ รพ.เวิลด์เมดิคอล ภายใต้การบริหารงานของบริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) ที่ได้มองเห็นโอกาสความร่วมมือระหว่างกันทางการแพทย์ในการให้บริการลูกค้าจากประเทศจีน  

        ความร่วมมือด้านการแพทย์ของรพ.เวิลด์เมดิคอล และลาวิดา ที่เพียบพร้อมไปด้วยความเชี่ยวชาญและความสามารถของบุคลากรด้านการแพทย์ ย่อมเป็นที่มั่นใจได้ว่า ผู้เข้ามารับบริการจะได้รับการรักษาดูแลอย่างใกล้ชิดและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด      

‍

‍

        เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า บริษัท ลาวิดา แอดวานซ์ เฟอร์ติลิตี้ แอนด์เจเนติกส์ เซ็นเตอร์ จำกัด ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) โดยมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการมีบุตรยากที่มีประสบการณ์ด้านการรักษาและเทคโนโลยีการตรวจทางพันธุกรรมที่ทันสมัยที่สุด

        นอกจากนี้ ลาวิดายังได้ดำเนินธุรกิจทางด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย (Anti-Aging) โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทั้งในและต่างประเทศในการให้บริการทางการแพทย์กับลูกค้าทั้งชาวจีนและต่างชาติเป็นจำนวนมาก

        ประเทศไทยขึ้นชื่อว่าเป็น Medical Hub ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางที่คนทั่วโลกอยากจะเข้ามาใช้บริการ ซึ่งลาวิดาเล็งเห็นแล้วว่า ภายหลังวิกฤติโควิดผ่านพ้นไปจะมีชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวจีน เดินทางเข้ามาใช้บริการด้านสุขภาพภายในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ซึ่งความร่วมมือระหว่างกันในครั้งนี้จะเป็นตัวหลักสำคัญที่ช่วยกระตุ้นตลาดลูกค้าชาวจีน และผลักดันให้การบริการทางการแพทย์ของประเทศไทยยิ่งเป็นที่รู้จักในสากลโลกมากยิ่งขึ้น”

‍

‍

         ศ.นพ.อดิศร ภัทราดูลย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล กล่าวว่า ภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้ ทางรพ.เวิลด์เมดิคอล ได้เตรียมพื้นที่ชั้น 15 เพื่อเปิดเป็นศูนย์ให้บริการดูแลผู้ป่วยของลาวิดา โดยทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกันในการพัฒนาทั้งการบริการตลอดจนเทคโนโลยี เพื่ออำนวยความสะดวกในการดูแลผู้ป่วยทั้งชาวจีนและต่างชาติที่จะตามมาในอนาคต โดยช่วงแรกจะเน้นไปที่บริการด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย (Anti-Aging) ความงาม ตลอดจนศัลยกรรมตกแต่งทางด้านต่างๆ รวมถึงบริการสำหรับกลุ่มผู้มีบุตรยากในระยะต่อไป

‍

คาดตลาดลูกค้า IVFชาวจีน เติบโตก้าวกระโดด .. หลังอั้นมา 3 ปี  

        สำหรับภาพรวมการกลับเข้ามาใช้บริการด้านสุขภาพในประเทศไทยของกลุ่มชาวจีน หลังรัฐบาลจีนเปิดให้เดินทางต่างประเทศ  ศ.นพ.อดิศร ภัทราดูลย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล คาดว่า บริการที่จะมาแรงที่สุดและเติบโตอย่างก้าวกระโดด คือ การบริการด้าน IVF เนื่องจากสถานการณ์โควิดที่ติดต่อกันเป็นเวลานานถึง 3 ปี เป็นเหตุให้ชาวจีนไม่สามารถเดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้โดยคาดการณ์ว่าจะเริ่มเห็นการทยอยกันเข้ามาอย่างคึกคักตั้งแต่ปลายเดือนมี.ค.- ต้นเดือนเม.ย.นี้เป็นต้นไป

‍

       “3 ปีที่ผ่านมา ชาวจีนที่อยากมีบุตรเดินทางออกมาไทยไม่ได้ พอจีนเปิดประเทศให้เดินทางได้ ทำให้เชื่อว่าจะเห็นกระแสการกลับมาที่แรงขึ้นกว่าช่วงก่อนโควิด ซึ่งบริการด้าน IVFของไทย มีศักยภาพความพร้อมทั้งในด้านบุคลากรแพทย์ เครื่องมือและเทคนิคที่ทันสมัย ทำให้มีเปอร์เซ็นต์ประสบความสำเร็จสูง  

        กลุ่มลูกค้าชาวจีนที่มีฐานะต้องการรับบริการระดับไฮเอนด์ และมีความปลอดภัยสูง ซึ่งรพ.เวิลด์มิคอลมีศักยภาพความพร้อมทั้งการเป็นศูนย์ IVF ขนาดใหญ่ และมีบริการทางการแพทย์ครบครัน เมื่อจับมือกับลาวิดาที่มีเครือข่ายบริการการแพทย์ในจีน และมีศักยภาพในการนำกลุ่มชาวจีนเข้ามาใช้บริการในไทย จึงเชื่อว่าจะยิ่งช่วยเสริมความแข็งแกร่งซึ่งกันและกัน

        ที่ผ่านมา บริการด้าน IVF ของรพ.เวิลด์เมดิคอล มีตลาดหลักอันดับ 1 คือกลุ่มลูกค้าชาวอาหรับ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 60 ล้านบาทต่อเดือน รองลงมา อันดับ 2  คือ กลุ่มลูกค้าชาวจีน ซึ่งคาดว่าหลังจีนกลับมาเปิดประเทศจะสามารถทำรายได้ไม่ต่ำกว่า 10 - 20 ล้านบาทต่อเดือน”

        ศ.นพ.อดิศร  ยังกล่าวด้วยว่า นอกจากบริการ IVF สำหรับผู้มีบุตรยากแล้ว บริการด้านการแพทย์หลักๆที่ชาวจีนนิยมเข้ามาใช้บริการในไทย ยังมีบริการด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย และการแพทย์ทางเลือกเพื่อฟื้นฟูดูแลสุขภาพ รวมถึงบริการศัลยกรรมตกแต่งด้านความงาม ซึ่งแพทย์ไทยมีชื่อเสียงและราคาไม่แพง ประกอบกับบริการที่ดีและเป็นมิตรของไทย ทำให้ได้รับความนิยมจากลูกค้าชาวจีน

        นอกจากนี้ ยังมีอีกบริการที่คาดว่าจะเป็นโอกาสใหม่ของไทย ได้แก่ การรักษามะเร็งที่ผสมผสานแพทย์แผนปัจจุบันกับแพทย์ทางเลือกซึ่งไทยมีความโดดเด่นทั้งในด้านการรักษาด้วยยาแผนไทย และกัญชา      

‍