จับตา! จีนเตรียมผลักดัน ‘องค์การแก้จนระดับโลก’

        รัฐบาลจีนเพิ่งประกาศความสำเร็จเรื่องการแก้ปัญหาความยากจนทั้งประเทศได้สำเร็จในปี 2021 (พ.ศ. 2564) หรือเมื่อสองปีที่ผ่านมา แต่รัฐบาลจีนได้เริ่มต้นจัดการประชุมเรื่องแก้ปัญหาความยากจนตั้งแต่เมื่อ 17 ปีที่แล้ว นี่หมายความว่า รัฐบาลจีนให้ความสำคัญกับการศึกษาแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์จากประเทศต่างๆเรื่องการแก้ปัญหาความยากจนมาอย่างยาวนานแล้ว ตั้งแต่ประเทศจีนเองยังกำลังคลำหาทางแก้ปัญหาความยากจนของตนเองอยู่เลย

        นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ ประธานคณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำวุฒิสภาได้กล่าวถึงการแก้ปัญหาความยากจนของประเทศจีน มิใช่ได้มาอย่างง่ายๆ แต่ต้องใช้ความทรหดอดทนในการเรียนรู้และการทำงานไปแก้ปัญหาไปความเพียรพยายามอย่างไม่ลดละที่ถือว่าการแก้ปัญหาความยากจนเป็นวาระที่สำคัญที่สุดของประเทศที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ และจะต้องบรรลุเป้าหมายให้ได้ ไม่ว่าจะต้องผ่านอุปสรรคประเภทใดก็ตาม แต่ที่สำคัญที่สุดคือหลักคิดที่ต้องยึดมั่นอยู่กับความเป็นจริงของสังคมจีนนับตั้งแต่เริ่มต้น หากขาดหลักคิดเช่นว่านี้ก็ไม่มีวันประสบความสำเร็จได้ เช่นเดียวกัน

        การประชุมครั้งที่ 17 ระหว่างอาเซียนกับจีนที่ว่าด้วยการพัฒนาสังคมและการลดความยากจนที่ เป๋ยไห่ กว่างซี ประเทศจีน และดำเนินการประชุมโดยศูนย์กลางการลดปัญหาความยากจนนานาชาติของประเทศจีน ณ กรุงปักกิ่ง ร่วมกับรัฐบาลของประชาชนแห่งเขตปกครองพิเศษกว่างซี ระหว่างวันที่ 26-29 มิถุนายน 2023 สะท้อนให้เห็นถึงจุดยืน และความปักใจแน่วแน่ที่ไม่อาจสั่นคลอนของพรรคคอมมิวนิสต์จีน และรัฐบาลจีนนี่เป็นบทเรียนสำหรับรัฐบาลของทุกประเทศว่าหากต้องการแก้ปัญหาความยากจนของประเทศตนเองแล้ว จำเป็นที่จะต้องมีรัฐบาลที่มีเจตจำนงอย่างแน่วแน่ที่จะเอาชนะปัญหานี้ โดยมิพักต้องสงสัย

        การประชุมครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากสำนักเลขาธิการอาเซียน โครงการเพื่อการพัฒนาขององค์การสหประชาชาติ ศูนย์กลางเพื่อการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจและเทคนิคนานาชาติของประเทศจีน และมูลนิธิอาลีบาบา

        สำหรับผู้ที่เข้าร่วมประชุมเป็นระดับรัฐมนตรีและผู้บริหารระดับสูงที่รับผิดชอบการแก้ปัญหาความยากจนของประเทศจีนและประเทศอาเซียนได้แก่ บรูไน กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย เมียนมาร์ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม นักการทูตของชาติอาเซียนในประเทศจีน ผู้แทนขององค์การนานาชาติ เอ็นจีโอ ผู้เชี่ยวชาญปัญญาชน อาจารย์มหาวิทยาลัย ผู้แทนของภาคธุรกิจและของสื่อมวลชน นอกจากนี้ผู้บริหารของประเทศจีนเป็นจำนวนมากที่มีประสบการณ์ในการแก้ปัญหาความยากจนได้เข้าร่วมในการประชุมครั้งนี้ด้วย

        นายสังศิต กล่าวว่าการประชุมสองวันแรกเป็นการประชุมอยู่ในห้องประชุมที่เป็นไปอย่างเข้มข้นเป็นอย่างยิ่ง การประชุมเน้นประสบการณ์โดยตรงของแต่ละประเทศ ซึ่งสะท้อนให้เห็นมุมมองของการแก้ปัญหาความยากจนที่หลากหลายของแต่ละประเทศ แต่จุดร่วมกันประการหนึ่ง คือเน้นบทบาทของตลาดและภาคธุรกิจเอกชนในการส่งเสริมการแก้ปัญหาความยากจนในภาคชนบท

        ประสบการณ์ที่ดีมากของจีนคือการสร้างระบบการเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิดและยืดหยุ่นที่จะไม่ให้คนที่เคยจนต้องถอยกลับไปสู่ความยากจนอีกครั้งหนึ่ง ในขณะนี้มีแต่ประเทศจีนเท่านั้นที่มีประสบการณ์เช่นว่านี้ ประเทศอาเซียนส่วนใหญ่ล้วนแต่กำลังต่อสู้เพื่อเอาชนะปัญหาความยากจนด้วยกันทั้งสิ้น

        จีนเป็นประเทศเดียวในโลกที่เอาชนะมายาคติ (myth) และความเชื่อของชาวตะวันตกที่ว่าปัญหาใหญ่ที่สุดของโลกสองปัญหาที่มนุษยชาติไม่อาจเอาชนะได้คือการแก้ความยากจนและการแก้การทุจริต (corruption) เพราะขณะนี้จีนเอาชนะปัญหาความยากจนได้แล้วและสามารถควบคุมการคอร์รัปชั่นของประเทศจีนได้ด้วย

        การควบคุมการคอร์รัปชั่นของจีนได้รับความสำเร็จ เพราะรัฐบาล สามารถจัดการกับบรรดาสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ที่เป็นข้าราชการ ตั้งแต่ระดับสูงจนถึงระดับล่างตามนโยบายของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง คือ “ตีทั้งเสือและแมลงวัน” ประมาณกันว่ามีข้าราชการประมาณหนึ่งล้านคนที่ถูกเอาออกจากระบบราชการและได้รับการดำเนินคดีตามกฎหมาย

        นายสังศิต กล่าวว่านี่เป็นประสบการณ์ที่ดีของรัฐบาลทุกประเทศที่ต้องการเอาชนะปัญหาความยากจนของคนส่วนใหญ่ในประเทศนั้น รัฐบาลจะต้องไม่หลงลืม ว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดที่รัฐบาลต้องเอาชนะปัญหาการคอร์รัปชั่นของนักการเมืองและข้าราชการพร้อมกันไปด้วย เพราะนักการเมืองและข้าราชการเหล่านี้คือต้นเหตุและเป็นต้นตอของปัญหาการคอร์รัปชั่นและความยากจนของประเทศปัญหาใหญ่สองเรื่องนี้มีความเกี่ยวพันและเกี่ยวข้องกันอย่าง ลึกซึ้งจนไม่อาจแก้ปัญหาใดปัญหาหนึ่งโดยไม่คำนึงถึงอีกปัญหาหนึ่งได้

        นายสังศิต ยังกล่าวด้วยว่าในช่วงก่อนที่จะเริ่มรับประทานอาหารเที่ยง เมื่อวานนี้ (26 มิถุนายน 2566) ประธานการจัดงานการประชุมอาเซี่ยน-จีนครั้งที่ 17 Mr.Liu Huansin (นายหลิว ฮ่วนซิน) ได้กล่าวที่โต๊ะอาหารว่า รัฐบาลจีนกำลังจะจัดตั้งองค์กรการแก้ปัญหาความยากจนในระดับโลกขึ้น โดยรัฐบาลจีนจะเชิญประเทศต่างๆ ทั่วโลกรวมทั้งประเทศอาเซียนเข้าร่วมด้วย นี่จะเป็นปรากฏการณ์ที่สำคัญของโลกยุคปัจจุบันที่กำลังจะมีองค์กรเช่นว่านี้เกิดขึ้น

        นายสังศิต กล่าวว่าบริบทของโลกแบบนี้จะช่วยให้โลกและประเทศไทยน่าอยู่ขึ้น เพราะคนจนจะได้รับความสนใจจากรัฐบาลมากขึ้น “รัฐบาลที่ดีจะต้องนำงบประมาณไปใช้ในเรื่องของคุณภาพการศึกษา โอกาสทางการศึกษา การพัฒนาเทคโนโลยี ที่อยู่อาศัย สิ่งแวดล้อม การสร้างแหล่งน้ำขนาดเล็กในพื้นที่นอกเขตชลประทาน และส่งเสริมการมีงานทำ”

‍

คลิปจาก Xinhua News